คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีไฟไหม้โกดังเก็บน้ำมัน ริมถนนเพชรเกษม อ้อมใหญ จังหวัดนครปฐม เร่งบูรณาการประกันภัยจ่ายสินไหมทดแทน เยียวยาความเสียหายอย่างเป็นธรรม
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เลขที่ 26/15 หมู่ 2 ถนนเพชรเกษม ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นเหตุให้อาคารสำนักงานและโกดังเก็บน้ำมันหล่อลื่นของบริษัทได้รับความเสียหาย และลุกลามไปยังทรัพย์สินข้างเคียง โดยไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ซึ่งในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาหลังเลิกงาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม เร่งช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม ได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งติดตามและตรวจสอบข้อมูลด้วยว่าตัวอาคารสำนักงานและโกดังดังกล่าวได้มีการทำประกันภัยรองรับไว้หรือไม่
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม ที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยเบื้องต้น พบว่า บริษัท ประภากรออยล์ จำกัด และปั๊มน้ำมันข้างเคียงที่ได้รับความเสียหาย ได้ทำประกันภัยไว้ ดังนี้
1. บริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เลขที่ 26/15 หมู่ 2 ถนนเพชรเกษม ตำบลอ้อมใหญ่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้ทำประกันอัคคีภัยไว้กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 721-01111-6351 ซึ่งได้ขยายความคุ้มครองถึงภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยจากการระเบิด ภัยจากการนัดหยุดงาน และความเสียหายของเครื่องไฟฟ้า เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 18 เมษายน 2564 สิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน 2565 จำนวนเงินเอาประกันภัย 66,000,000 บาท ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย คือ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร (ไม่รวมฐานราก) 34,000,000 บาท และสต๊อกสินค้า 32,000,000 บาท
และได้ทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมาย อันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการควบคุมน้ำมันตามกรมธรรม์เลขที่ 720-01588-216 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 200,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงไม่เกิน 200,000 บาทต่อคน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ตามประเภทกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ดังกล่าว โดยคุ้มครองรวมกันสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อครั้ง และบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เลขที่ 26/22 หมู่ 2 ซอยเทศบาล 11 ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้ทำประกันอัคคีภัยตามกรมธรรม์เลขที่ 721-01111-6350 ซึ่งได้ขยายความคุ้มครองถึงภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยจากการระเบิด ภัยจากการนัดหยุดงาน และความเสียหายของเครื่องไฟฟ้า เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 18 เมษายน 2564 สิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน 2565 จำนวนเงินเอาประกันภัย 35,000,000 บาท ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย คือ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร (ไม่รวมฐานราก) 7,000,000 บาท และสต๊อกสินค้า 28,000,000 บาท
2. บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เลขที่ 26/1 หมู่ 2 ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้ทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมาย อันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการควบคุมน้ำมันไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 14044-114-200029896 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 1 มกราคม 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 200,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงไม่เกิน 200,000 บาทต่อคน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ตามประเภทกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ดังกล่าว โดยคุ้มครองรวมกันสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันภัยดังกล่าวได้ลงพื้นที่เพื่อติดตาม และเร่งสำรวจภัยเพื่อประเมินความเสียหายแล้ว ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม เข้าร่วมบูรณาการเพื่อให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยเป็นไปโดยเร็วและเป็นธรรม
"สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับประชาชน ผู้ประกอบการที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงฝากเตือนมายังประชาชน ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยควรทำประกันอัคคีภัยและประกันภัยอื่น ๆ
รวมถึงการประกันภัยที่กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการควบคุมประเภท 3 ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 ได้แก่ สถานที่เก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง คลังน้ำมันเชื้อเพลิง และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ต้องจัดให้มีการประกันภัยความเสียหายแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอัคคีภัยหรือการระเบิด อันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย