ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ทางเพจเฟซบุ๊กซีทรู ได้โพสต์ข้อมูล โดยระบุข้อความ ว่า...ต้องบอกว่ามีกันแทบจะทุกวงการก็ว่าได้สำหรับอาการที่เรียกกันว่า "หลงหัวโขน" โดยเฉพาะบรรดาคนที่ทำงานในแวดวงสื่อสารมวลชน บางคนได้เจอแหล่งข่าวเป็นคนใหญ่คนโต ได้ใกล้ชิดได้สัมภาษณ์คนเด่นคนดัง ก็พลันรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ตัวเองต้องเป็น Somebody ที่ใครๆ จะต้องมาเอาอกเอาใจขึ้นมาซะอย่างนั้น หนึ่งในตัวอย่างก็เห็นจะเป็นนักข่าวภาคสนามสังกัดค่ายใหญ่ค่ายหนึ่ง อันที่จริงนักข่าวคนนี้ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้โผล่หน้าผ่านจอทีวีกับเค้าไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่กลับทำตัวขี้อวด ขี้เบ่ง แถมยังพยายามสร้างเรื่องให้ตัวเองเป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา จนเพื่อนๆ สายข่าวเดียวกันยังออกอาการเอือม ล่าสุดจะเรียกว่าซวยหรือโอกาสมาเยือนก็ไม่ทราบได้ เมื่อนักข่าวขี้เบ่งเกิดติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมา งานนี้แทนที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนเหมือนกับคนทั่วไปทำกันซึ่งก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมากมายนัก แต่เจ้าตัวกลับต่อสายไปยังคนในวงการสีกากีที่รู้จักเพื่อขอให้ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลนักข่าวคนนี้ยังโชว์กร่างเรียกร้องจะนอนห้องพิเศษเข้าให้อีก ซึ่งพอเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีห้องว่าง เจ้าตัวก็แสดงความหงุดหงิด โมโห รีบต่อสายไปหาคนใหญ่คนโตของ กทม. เพื่อขอให้ช่วยดูว่ายังมีโรงพยาบาลในสังกัดอื่นๆ ที่ยังมีห้องพิเศษเหลืออยู่มั้ย ครั้นพอได้โรงพยาบาล ได้ห้อง(พิเศษ) แทนที่เจ้าตัวจะพอใจก็กลับไปมีเรื่องมีราวกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นักข่าวจอมเบ่งสั่งของจากเซเว่นมาส่ง ทำเอาเจ้าตัวโวยวาย ไลฟ์สดต่อว่าหมอพยาบาลว่าทำไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ สุดท้ายทางโรงพยาบาลก็เลยต้องต่อสายไปยังหัวหน้าข่าวของเจ้าตัวเพื่อรายงานถึงพฤติกรรมต่างๆ นั่นแหละนักข่าวขี้เบ่งถึงได้ยอมสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้น แต่เชื่อเถอะ สำหรับคนนิสัยแบบนี้แล้วคงอยู่เงียบๆ ได้อีกไม่นานสักเท่าไหร่นักหรอก...
ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจากเพจเฟซบุ๊ก ซีทรู