เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับ นายโจโก วิโดโด (H.E. Mr. Joko Widodo) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ นายกฯ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในวันนี้ ฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีอินโดนีเซียและครอบครัว ชื่นชมบทบาทอินโดนีเซียในเวทีอาเซียน ที่ได้ผลักดันให้มีการประชุมผู้นำอาเซียนเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่สำนักเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ในวันที่ 24 เม.ย. ทั้งนี้มีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และตระหนักดีว่าสถานการณ์ในเมียนมาเป็นประเด็นที่มีความท้าทายอย่างยิ่งต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะนายกฯ ไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ จึงไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ที่กรุงจาการ์ตาได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนพิเศษ (Special envoy) เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งด้วยความห่วงใยในสถานการณ์ ได้ฝากความเห็นเพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำเสนอในที่ประชุม พร้อมทั้งอวยพรให้การประชุมประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้สถานการณ์ในเมียนมาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งประเทศไทยพร้อมผลักดันการดำเนินการตามมติของที่ประชุม ด้านประธานาธิบดีอินโดนีเซียยินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมขอบคุณ และชื่นชมบทบาทไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางด้านต่างประเทศ และความคิดเห็นของไทยส่งผลสำคัญในการผลักดันภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เข้าใจดีถึงการตัดสินใจของนายกฯ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาเซียนจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ในเมียนมาคลี่คลาย