จากกรณีที่นายแพทย์ เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ได้รายงานถึง สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่า การระบาดระลอกนี้ มีการเสียชีวิตในคนอายุน้อย ด้วยสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น สัมพันธ์กับการติดเชื้อในวัยหนุ่มสาว ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง ในที่ทำงาน และครอบครัว ล่าสุด วันที่ 21 เมษายน 2564 มีรายงานถึง คลัสเตอร์ โรงงานแห่งหนึ่ง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นประธานบริษัทซึ่งได้ไปงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นเดือนเมษายน จากนั้นวันที่ 9 เมษายน เริ่มมีอาการป่วย และมีกิจกรรมรดน้ำสงกรานต์ภายในโรงงานด้วย ทำให้มีผู้สัมผัสและมีการติดเชื้อ 11 ราย จากผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 72 ราย และมีผู้ติดเชื้อในครอบครัวอีก 4 ราย ซึ่งรวมแล้ว 17 ราย กรณีนี้เป็นการสัมผัสเชื้อในที่ทำงาน จึงเป็นที่มาว่าในสถานประกอบการไม่ควรมีกิจกรรมที่รวมตัวกัน หากเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง รวมถึงการรับประทานอาหารก็ควรแยกการรับประทาน ไม่ควรมีการสังสรรค์ร่วมกัน ทั้งนี้การระบาดของโรคโควิดดังกล่าว ทำให้คนมีความกังวลเพราะกลัวว่าตัวเองจะติดโรคหรือไม่ คนใกล้ตัวจะติดโรคหรือไม่ ซึ่งเมื่อกังวลมากๆ ก็จะกลายเป็นความเครียด และทำให้เกิดความโกรธแค้นต่อสิ่งต่างๆ โกรธคนแพร่เชื้อ โกรธระบบบริการ โกรธในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงการโกรธและการรังเกียจเรื่องเชื้อชาติ เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวคนเอเชียทุกทำร้ายร่างกายในหลายๆ ประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางคนกลัว เครียดจนไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่ทำอะไรเลยก็มี ดังนั้นถ้ารู้ว่า ติดเชื้อ อันดับแรกคือต้องตั้งสติ โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ จากนั้นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่าง เป็นไปตามสเต็ปซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับโรค และวิธีปฏิบัติตัว รวมถึงหน่วยงานที่เราสามารถติดต่อได้นั้น ซึ่งสามารถเตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อหรือคนใกล้ชิดเราติดเชื้อจะได้ไม่ตื่นตระหนก หรือเครียดเกินไป ส่วนวิธีสังเกตว่าตัวเราหรือคนใกล้ชิดมีความเครียดเกินไปหรือไม่นั้นสังเกตได้จากหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหงื่อออกง่าย ปวดหัว ความคิด จิตใจไม่แจ่มใส ดังนั้น วิธีที่จะช่วยให้คลายเครียดคือการไม่เสพข่าวสารมากเกินไป ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง สำหรับการป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดจากโรค คือ การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ซึ่งเมื่อเราป้องกันตัวเองดีจะทำให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ก็จะไม่เครียดเกินไป