หลังว่อนโลกออนไลน์มีผู้ป่วยติดเชื้ออื้อ รองปลัดกทม.ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมีแค่บางร้าน ยืนยันร้านตั้งใจอยู่ที่เป็นข่าว ไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนร้านกระเป๋าถ.ราชวงศ์ พบติดโควิดจริงได้เข้ารักษาตัวที่รพ.- กลุ่มเสี่ยงให้กักตัว 14 วันและปิดร้านฆ่าเชื้อเรียบร้อย ระบุที่มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วถนนเยาวราชนั้นเป็นการทำผิดวิธี ได้ให้เขตสัมพันธวงศ์แนะนำวิธีฆ่าเชื้อที่ถูกต้องแล้ว ย้ำให้ยึดมาตรการป้องกันตามหลักสธ. เมื่อวันที่ 21 เม.ย.64 นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อออนไลน์ระบุมีการแพร่ระบาดบริเวณร้านอาหารเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ได้ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีผู้ติดเชื้อจริงแต่เป็นเพียงบางร้านเท่านั้น โดยในส่วนของร้านตั้งใจอยู่ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีการระบุในสื่อออนไลน์ อยู่ระหว่างปิดปรับปรุง ซึ่งเป็นการปฏิบัติโดยปกติในช่วงสงกรานต์เป็นประจำทุกปี และไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในร้านดังกล่าว อีกทั้งที่ผ่านมาร้านได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กรุงเทพมหานครแนะนำอย่างเคร่งครัดตลอดมา โดยทำความสะอาดร้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ร้านตั้งใจอยู่ได้ให้พนักงานในร้านดูแลความสะอาดตนเอง รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล รวมทั้งได้ตรวจวัดอุณหภูมิและจัดจุดบริการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์สำหรับลูกค้าและผู้ใช้บริการ ตลอดจนจัดที่นั่งโดยมีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะตามข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานราชการกำหนด ส่วนกรณีร้านกระเป๋าบริเวณถนนราชวงศ์ ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ไมตรีวานิช ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค และได้ให้ปิดร้านเพื่อทำความสะอาดตามมาตรการที่กำหนด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อได้ประสานให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อ ได้ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วถนนเยาวราชนั้น กรุงเทพมหานครไม่ได้อนุญาตให้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามที่มีภาพเผยแพร่ในสื่อออนไลน์แต่อย่างใด แต่ได้เน้นย้ำสร้างให้สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้ประกอบการถึงวิธีการฆ่าเชื้อโรคที่เหมาะสม โดยการเช็ดถู ด้วยแอลกอฮอล์ 70% และน้ำยาฟอกขาว บริเวณพื้นที่หรือจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ จะเกิดประสิทธิภาพมีความปลอดภัยต่อผู้ทำความสะอาด พร้อมทั้งกำชับให้สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลและปฏิบัติตามมาตรการ (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้านหรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” หรือ “หมอชนะ” เมื่อเข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อันเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนต่อไป