เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจโรงพยาบาลขอนแก่น ได้ออกประกาศแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 5 คน ทำให้ผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อซึ่งมีทั้งแพทย์และพยาบาลเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 113คน จำนวน 14 วัน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์งดเยี่ยม ปิดหอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง 1 หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 และหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤต 1 และขอความร่วมมือโรงพยาบาลเครือข่ายงดส่งต่อผู้ป่วยในรายที่ไม่จำเป็น เกลี่ยกำลังบุคลากรทางการแพทย์ที่เหลืออยู่คอยให้บริการประชาชน
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง พญ.นาตยา มิลส์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ทราบว่า สำหรับสถานการณ์ที่มีบุคคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์กักตัวถึง 113 คนนั้น ปัจจุบันพบว่ามีบุคลากรครบกำหนดกักตัวแล้วกว่า 70 คน มีเหลือเพียง 20 คนที่ยังต้องกักตัวอยู่ ทำให้โรงพยาบาลต้องบริหารจัดการบุคลากรที่มีอย่างจำกัดเพื่อให้บริการประชาชนที่เข้ามารับบริการวันละกว่า 4,000 คน
“สำหรับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหาเชื้อโควิด-19 ทั้ง 113 คน ไม่พบเชื้อแล้ว ทุกคนกักตัวครบกำหนดตามระยะเวลาที่ได้สัมผัสผู้ติดเชื้อ ในช่วงระหว่างวันที่ 10 - 27 เม.ย. 2564 และคาดว่าวันที่ 26 เม.ย.2564 บุคลากรทั้งหมดสามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ในครบทุกหอผู้ป่วยและเปิดบริการได้ตามปกติ โดยให้แต่ละกลุ่มงานมีแผนสำรองอัตรากำลัง โดยจัดทีมทำงานเป็น 2 ทีม เพื่อเตรียมความพร้อมมีทีมสำรองกรณีมีบุคลากรติดเชื้อ"
ขณะมี่ นางปัทมา ทองไพบูลย์ หัวหน้างานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ ยอมรับว่าแม้ในช่วงนี้เหนื่อยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ต้องให้บริการประชาชน แต่กำลังใจยังดีโดยกลุ่มพยาบาลพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน โดยหัวหน้าแต่ละกลุ่มงานจะเน้นย้ำกับบุคลากรให้ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าตลอดทั้งวันที่ อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลขอนแก่น ยังคงมีประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เดินทางมาตรวจรักษา อย่างต่อเนื่อง แต่ลดจำนวนลงหลังจากโรงพยาบาลได้งดรับตรวจ เชิงรุก และพบบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 5 คนติดเชื้อจากภายนอกซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีประกาศถึงนโยบายและมาตรการการดำเนินงานในการลดการตรวจจำนวนผู้ป่วยเรื้อรัง ที่สามารถรับยาที่บ้านได้นอกจากนี้ยังได้ประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่ายในการดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้น เพื่อลดความแออัด