การแลกเปลี่ยนรถยนต์ที่ผลิตในอาเซียนด้วยกันนั้นรถยนต์ที่ผลิตในเมืองไทยจะดูจะได้เปรียบที่สุด ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมกันมานานทำให้การประกอบจึงทำได้ดี อีกทั้งการเลือกรถแต่ละรุ่นมาประกอบก็ค่อนข้างที่จะพิถีพิถันหน่อย ต่างจากอินโดนีเซียที่ตามมาทีหลังซึ่งมักจะเลือกรถ 7 ที่นั่งเป็นหลัก ไม่เน้นคุณภาพมากนักแต่เรื่องราคาจะมาก่อน ทำให้รถยนต์ที่ถูกส่งเข้ามาขายในเมืองไทยมีการตอบรับไม่ค่อยดีนัก อินโนวา คริสต้า ดูจะเป็นรถยนต์คันแรกที่ผลิตจากอินโดนีเซียทำได้ดี มีความโดดเด่นในทุกๆด้าน เมื่อเปรียบเทียบกับตัวต้นแบบที่ใช้เป็นพื้นฐานดูก็จะด้อยกว่าด้วยซ้ำไป ก่อนหน้านี้อินโนวาก็ถูกนำเข้ามาขายในเมืองไทยก่อนแล้ว แต่จะเป็นรุ่นต่ำเมื่อเทียบกับรถที่มี เห็นได้จากการเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรกับเบนซิน 2.0 ลิตร แทนที่จะเป็นดีเซล 3.0 และเบนซิน 2.7 จึงทำให้ยอดขายสู้ฟอร์จูนเนอร์ที่มีราคาใกล้เคียงกันไม่ได้ กระจกหน้าลาดเอียง แต่มาคราวนี้มีการเปลี่ยนโฉมอินโนวา คริสต้าจึงถูกจัดเต็ม สามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่อยู่ในตลาดตอนนี้ได้แบบไม่อายใคร รุ่นหลักๆก็จะเป็น2.8 ลิตร รุ่นวี ราคา1,390,000 บาท รอ ลงมาจะเป็นรุ่นจี1,235,000 บาท ส่วนเครื่องยนต์เบนซินยังเป็น 2.0 ลิตรราคา 1,129,000 บาท ก็อย่างที่รู้กันว่าอินโนวา คริสต้าใช้พื้นฐานของรีโว โดยออกแบบให้ฟอร์จูนเนอร์เป็นรถเอสยูวี ส่วนอินโนวา คริสต้าเป็นรถ เอ็มพีวีเพื่อกระจายให้ครอบคลุมมากขึ้นแค่เห็นหน้าตาของอินโนวา คริสต้าก็กินขาดแล้ว เป็นหน้าตาที่สวยกว่าพวกพ้องในกลุ่ม แต่คงจะถอดมาเปลี่ยนใส่ฟอร์จูนเนอร์ไม่ได้ เพราะรูปแบบต่างกัน มีจำนวนชิ้นมากกว่า อีกทั้งกระจกหน้าก็ยังคงมีความเอียงมากกว่าอีกต่างหาก เสริมด้วยลายไม้ เมื่อมองภาพรวมของตัวรถจึงค่อนข้างจะลงตัว กลายเป็นรถยนต์คันแรกจากอินโดนีเซียที่ออกแบบได้ดี ก่อนหน้านี้ก็จะมีรุ่นน้องอย่างเซียนต้าออกมา ก็เกือบจะทำได้ดีแล้ว เป็นรถที่มีหน้าตาสวยงาม ภายในเอนกประสงค์ แต่มาตกม้าตายด้วยเกียร์ซีวีที ที่ค่อนข้างวืดในช่วง 2,000-3,000 รอบ ทำให้ขาดความสนุกในการขับขี่แต่กับอินโนวา คริสต้านั้นทำได้ลงตัวกว่า ดีกว่ารถต้นแบบด้วยซ้ำไป เมื่อเลือกเครื่องยนต์ตัวท๊อปอย่างดีเซล 2.8 ลิตรมาใช้งาน เป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในรีโวทำได้ดีกว่าเมื่อถูกนำมาใช้งานในรถเอ็มพีวี รถแบบนี้จะมีกระจกหน้าที่มีความลาดเอียงมากกว่า ส่งผลในเรื่องของความลู่ลมที่มีส่วนช่วยในเรื่องของความประหยัด อีกอย่างก็คือล้อที่ใช้ก็จะเป็นล้อขนาดเล็กแบบเดียวกันกับในรถเก๋งทั่วๆไป จึงไม่กินกำลังเครื่องยนต์ในการฉุดลาก มีความเสียดทานน้อยกว่าทำให้สามารถเรียกอัตราเร่งได้อย่างรวดเร็วขึ้น เบาะหน้าปรับไฟฟ้า เมื่อลองขับดูจะเห็นถึงความโดดเด่นของเครื่องยนต์1จีดี-เอฟทีวี ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุ2755ซีซี ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตรที่พัน1200-3400 รอบต่อนาที เป็นเครื่องยนต์ที่ถูกปรับลดกำลังให้ลดลงมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกันกับฟอร์จูนเนอร์ แต่ก็ไม่ได้เสียเปรียบมากนักในเรื่องของอัตราเร่งเพราะเกียร์ที่ใช้เป็นชุดเดียวกัน แต่ไปปรับในเรื่องของอัตราทดเฟืองท้ายให้น้อยลงเพื่อให้เหมาะสมกับล้อที่เล็กกว่า เบาะกลางพับจังหวะเดียว เมื่อนำไปใช้งานจนรู้สึกว่าเครื่องยนต์ที่วางอยู่ในอินโนวา คริสต้าให้การตอบสนองได้ดีกว่า เกียร์สุดท้ายจะให้การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น อาจจะเปลี่ยนที่ 110 กิโลเมตรต่อชม.เหมือนกัน แต่การใช้เกียร์สุดท้ายเมื่อความเร็วลดลงจะอยู่ได้นานกว่า เวลาใช้ความเร็วคงที่รอบเครื่องยนต์จะต่ำมาก ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่แถวๆ1550รอบต่อนาที พอใช้เดินทางด้วยความเร็วคงที่ก็จะได้ความประหยัดที่น่าตกใจเมื่อลองใช้ความเร็วเดินทางแถว 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางจากกรุงเทพถึงเพชรบุรี จะเหยียบคันเร่งคงที่ พอเห็นตัวเลขอัตราบริโภคแล้วถึงกับอึ้ง ทำได้แต่แถวๆ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตรที่หาไม่ได้จากพี่น้องในร่วมรุ่นเดียวกัน หลังจากนั้นคันเร่งจะถูกกดหนักขึ้นเพื่อทำเวลา ไปถึงชะอำพร้อมกับลักษณะการขับขี่ที่คล้ายกันช่วงเดินทางกลับ ก็ยังทำให้อัตราบริโภคเฉลี่ยแถวแถวๆ 15.7 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดสำหรับรถประดับนี้ เบาะหลังยกสูง เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวก็ทำได้สบายใจ เพราะอินโนวา คริสต้ามีเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งมาให้ใช้ ซึ่งแต่ละแถวก็สามารถนั่งได้สบายอยู่แล้ว พร้อมกับการตกแต่งเพิ่มเติมอย่างประตูหน้าก็จะเพิ่มที่วางแขนมาให้อีกต่างหาก เบาะนั่งฝั่งคนขับจะใช้ไฟฟ้าในการปรับทำได้ 8 ทิศทาง ส่วนเบาะแถวหลังยังสามารถปรับได้อย่างอิสระเพื่อให้พื้นที่ให้มีความหลากหลายมากขึ้นในการใช้งาน พับเบาะไว้ด้านข้าง มีระบบปรับเลื่อนที่นั่งด้านหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 พร้อมกับระบบพับเบาะในจังหวะเดียวเพื่อความสะดวกในการพับเบาะ ตามจุดต่างๆของรถก็จะมีช่องเก็บของมาให้เพื่อความเหมาะสมกับรูปแบบของรถที่ใช้เพื่อการเดินทาง คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์:อภิชัย ไกรนุกูล