ความคืบหน้าล่าสุด พร้อม 13 โบราณวัตถุ กรมศิลป์นำมาจัดแสดงให้ประชาชนชมใกล้ชิด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
20 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ กลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุฯ กล่าวว่า ได้มีการรายงานความคืบหน้าการติดตามทวงคืนทับหลังประสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อนำส่งกลับมาประเทศไทยภายในเดือน พ.ค.นี้ โดยเห็นควรมอบอำนาจให้กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เป็นผู้แทนรัฐบาลในการรับมอบโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เนื่องจากเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการไทยที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายระหว่างการขนย้ายภายในประเทศสหรัฐฯ โดยให้ทางกงสุลใหญ่ฯ ประสานกับ สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ในเรื่องวันเวลา รวมถึงขั้นตอนและพิธีการส่งมอบ
ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว
ทับหลังประสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
นายประทีป กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กรมศิลปากรไม่สะดวกในการส่งผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบโบราณวัตถุ ณ ประเทศสหรัฐฯ จึงขอความอนุเคราะห์ให้ทางกงสุลใหญ่ฯ เป็นผู้แทนในการตรวจสอบและควบคุมดูแลการบรรจุหีบห่อ พร้อมทั้งถ่ายภาพการดำเนินการทุกขั้นตอนโดยละเอียด เมื่อโบราณวัตถุมาถึงประเทศไทยแล้ว กรมศิลปากรจะมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการตรวจสอบในภายหลัง จากนั้นจะมีการจัดพิธีรับมอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ก่อนที่จะนำมาอนุรักษ์ตามหลักการวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ และนำมาจัดแสดงให้ความรู้แก่ประชาชนได้ชมอย่างใกล้ชิด ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ขณะเดียวกันยังได้มีการรายงานการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุที่พบในนครนิวยอร์ก จากการลักลอบนำออกจากประเทศไทย และเป็นของกลางในคดีอาญาตามกฎหมายสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 13 รายการ ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมสำริด พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ รูปเคารพ โดยทางสหรัฐฯ ได้พิจารณาสิ้นสุดคดีแล้ว มีความประสงค์ที่จะส่งคืนประเทศไทย โดยกรมศิลปากรและกต.ได้มอบอำนาจให้กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ดำเนินการรับมอบโบราณวัตถุทั้ง 13 รายการเช่นเดียวกัน โดยมีการส่งมอบวันที่ 22 เม.ย.นี้ ที่ทำการสถานสงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งจะเชิญเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ นายอิทธิพลได้ย้ำในส่วนของงบประมาณดำเนินการขนส่ง กรมศิลปากรมีความพร้อมในการเบิกจ่าย แต่หากภาคเอกชนหรือภาคส่วนต่างๆ มีความประสงค์สนับสนุนงบประมาณ ก็มีความยินดีให้เข้ามามีส่วนร่วมได้
“ทางสหรัฐฯ ได้แจ้งว่ายังมีโบราณวัตถุที่อยู่ระหว่างการการสอบสวนทางคดี และคาดว่าเป็นของไทย อีก 15-20 รายการ ซึ่งหากกระบวนการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว จะมีการจัดส่งกลับมาประเทศไทยเพิ่มเติมในระยะต่อไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนการติดตามพระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี จากเมืองซับจำปา จ.ลพบุรี อีก 1 รายการ ซึ่งอยู่ที่สหรัฐฯ นั้น คณะอนุกรรมการฯด้านวิชาการอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเอกสารเพื่อประกอบการติดตามทวงคืน ขณะที่ยังมีโบราณวัตถุอีกหลายรายการที่ทางกรมศิลปากรสำรวจพบข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเก็บรักษา ณ ประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐอเมริกา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ จะมีการประสานงานเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการต่อไป” นายประทีป อธิบดีกรมศิลป์ กล่าว