20 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พื้นที่จังหวัดชัยภูมิผู้ป่วยระลอกใหม่ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 เม.ย.64 ที่ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ นายกอบชับ บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนรายวันถึงสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ โดยมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกวันในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ที่พบมีการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งวันที่พบอีก 2 ราย รวมมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมแล้วจำนวนรวม 34 ราย แยกเป็นกำลังรักษาอยู่ที่ รพ.ชัยภูมิ 25 ราย รักษาหาย 2 ราย และยังรักษาตัวที่ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ 8 ราย(เตรียมให้กลับบ้านในวันพรุ่งนี้ได้ 3 ราย) รพ.แก้งคร้อ อีก 1 ราย โดยผู้ป่วยทั้งหมดกำลังรักษาอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้งยังไม่พบผู้เสียชีวิต
ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ โฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อ 2 รายในวันนี้ จะต้องเร่งติดตามไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงสูงที่มาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง YY บาร์ใน อ.เมืองชัยภูมิ และมาจากจังหวัดเสี่ยง โดยรายที่1.เป็นหญิง อายุ 23 ปี มีอาชีพเป็นวิศวกรโยธาเอกชน ในพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ มีไทม์ไลน์ประวัติวันที่ 9-13 เม.ย. เดินทางไปจังหวัดเสี่ยงที่มหาสารคามและ จ.ขอนแก่น และวันที่ 14 เม.ย.กลับมาที่ จ.ชัยภูมิ ใน ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส ก่อนเดินทางมาบ้านในตัว อ.เมืองชัยภูมิ ไปที่ห้างสรรพสินค้า และร้านชาบูพุงกาง ก่อนที่จะมีเพื่อนจาก จ.มาหาสารคามโทรมาบอกว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบเดินทางมาตรวจก็พบว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 มาด้วยครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ จะได้เร่งติดตามไทม์ไลน์คนเกี่ยวข้องสัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดและขอให้รีบมารายตัวกับ จนท.รพ.โดยเร็ว
ต่อมารายที่2. เป็นหญิง อายุ 30 ปี อาชีพอิสระ ติดมาจากร้าน YY บาร์ ที่เป็นคลัสเตอร์พบผู้ติดเชื้อมาต่อเนื่องในขณะนี้ของจังหวัดชัยภูมิ มากว่า 7-8 รายแล้ว ซึ่งไปเที่ยวในร้านดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.64 ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนสัมผัสใกล้ชิดด้วยกันไปเที่ยวมาตั้งแต่วันที่ 5-9 เม.ย. ติดมาทั้งหมดแล้วหลายราย แต่รายนี้เพิ่งมาขอตรวจเพิ่มก็พบติดเชื้อจากกลุ่มนี้นี้เพิ่มอีก ซึ่งจากนี้ไปทางจังหวัดชัยภูมิ ต้องขอย้ำเตือนว่าคนที่มีไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงไปสถานที่ดังกล่าวในช่วง 5-9 เม.ย.64 ขอให้รีบมาตรวจรายงานตัวต่อ จนท.รพ.โดยด่วน เพราะท่านจะกลายเป็นพาหะ นำเชื้อกระจายลามไปยังคนอื่นได้อีกจำนวนมากในขณะนี้
ขณะที่วันที่ 18 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ทีมแพทย์จาก รพ.ชัยภูมิ ได้มีการช่วยผ่าทำคลอดให้แม่วัย 36 ปี ที่พบติดเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยเด็กแรกเกิดให้คลอดได้ปลอดภัยก่อนกำหนดแล้ว จากวานนี้พบมีทีมแพทย์เสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวๆไปแล้วรวม 14 ราย และวันนี้มาตรการที่ต้องเข้มงวดมากขึ้นและจำเป็นต้องกักตัวทีมคณะแพทย์ หมอ พยาบาล บุคลากรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในห้องผ่าตัดด้วยครั้งนี้ เพิ่มทั้งหมดรวมอีกเป็น 24 ราย และเบื้องต้นมีผลตรวจในครั้งแรกออกมาแล้วยังไม่พบเชื้อ แต่ก็ยังต้องกักตัวต่อให้ครบ 14 วัน ไว้ก่อนเพื่อรอตรวจยืนยันอีกครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลก็จำเป็นต้องขาดบุคคลากรทางการแพทย์ในห้องผ่าตัดตามมาด้วย ซึ่งก็จะได้มีการเร่งจัดทีมแพทย์ชุดใหม่เข้ามาเสริมที่อาจจะมีปัญหาด้านบริการอยู่บ้างในช่วง 14 วันจากนี้ไปด้วย
ขณะที่ทางนายกอบชัย บุญอรณะ ผุ้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในขณะนี้ ทางจังหวัดชัยภูมิ เองก็จะต้องมีการพิจารณาเพื่อที่จะต้องมีการขยายเวลาสั่งปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ ที่มีการสั่งปิดไปแล้ว 14 วันมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. หลังวันที่ 23 เม.ย.นี้ หากยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทางจังหวัดชัยภูมิ ก็จำเป็นจะต้องมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งเพิ่มต่ออีกระยะในครั้งนี้ตามมาด้วยอีกครั้งต่อไป และโดยเฉพาะจากนี้ไปมาตรการป้องกันที่สำคัญและเด็ดขาดซึ่งหากพบว่าใครที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านเตือนแล้วไม่ฟังจะต้องมีโทษปรับ 20,000 บาท อีกด้วยต่อไป
ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ โฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อ 2 รายในวันนี้ จะต้องเร่งติดตามไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงสูงที่มาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง YY บาร์ใน อ.เมืองชัยภูมิ และมาจากจังหวัดเสี่ยง โดยรายที่1.เป็นหญิง อายุ 23 ปี มีอาชีพเป็นวิศวกรโยธาเอกชน ในพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ มีไทม์ไลน์ประวัติวันที่ 9-13 เม.ย. เดินทางไปจังหวัดเสี่ยงที่มหาสารคามและ จ.ขอนแก่น และวันที่ 14 เม.ย.กลับมาที่ จ.ชัยภูมิ ใน ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส ก่อนเดินทางมาบ้านในตัว อ.เมืองชัยภูมิ ไปที่ห้างสรรพสินค้า และร้านชาบูพุงกาง ก่อนที่จะมีเพื่อนจาก จ.มาหาสารคามโทรมาบอกว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบเดินทางมาตรวจก็พบว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 มาด้วยครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ จะได้เร่งติดตามไทม์ไลน์คนเกี่ยวข้องสัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดและขอให้รีบมารายตัวกับ จนท.รพ.โดยเร็ว
ต่อมารายที่2. เป็นหญิง อายุ 30 ปี อาชีพอิสระ ติดมาจากร้าน YY บาร์ ที่เป็นคลัสเตอร์พบผู้ติดเชื้อมาต่อเนื่องในขณะนี้ของจังหวัดชัยภูมิ มากว่า 7-8 รายแล้ว ซึ่งไปเที่ยวในร้านดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.64 ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนสัมผัสใกล้ชิดด้วยกันไปเที่ยวมาตั้งแต่วันที่ 5-9 เม.ย. ติดมาทั้งหมดแล้วหลายราย แต่รายนี้เพิ่งมาขอตรวจเพิ่มก็พบติดเชื้อจากกลุ่มนี้นี้เพิ่มอีก ซึ่งจากนี้ไปทางจังหวัดชัยภูมิ ต้องขอย้ำเตือนว่าคนที่มีไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงไปสถานที่ดังกล่าวในช่วง 5-9 เม.ย.64 ขอให้รีบมาตรวจรายงานตัวต่อ จนท.รพ.โดยด่วน เพราะท่านจะกลายเป็นพาหะ นำเชื้อกระจายลามไปยังคนอื่นได้อีกจำนวนมากในขณะนี้
ขณะที่วันที่ 18 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ทีมแพทย์จาก รพ.ชัยภูมิ ได้มีการช่วยผ่าทำคลอดให้แม่วัย 36 ปี ที่พบติดเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยเด็กแรกเกิดให้คลอดได้ปลอดภัยก่อนกำหนดแล้ว จากวานนี้พบมีทีมแพทย์เสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวๆไปแล้วรวม 14 ราย และวันนี้มาตรการที่ต้องเข้มงวดมากขึ้นและจำเป็นต้องกักตัวทีมคณะแพทย์ หมอ พยาบาล บุคลากรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในห้องผ่าตัดด้วยครั้งนี้ เพิ่มทั้งหมดรวมอีกเป็น 24 ราย และเบื้องต้นมีผลตรวจในครั้งแรกออกมาแล้วยังไม่พบเชื้อ แต่ก็ยังต้องกักตัวต่อให้ครบ 14 วัน ไว้ก่อนเพื่อรอตรวจยืนยันอีกครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลก็จำเป็นต้องขาดบุคคลากรทางการแพทย์ในห้องผ่าตัดตามมาด้วย ซึ่งก็จะได้มีการเร่งจัดทีมแพทย์ชุดใหม่เข้ามาเสริมที่อาจจะมีปัญหาด้านบริการอยู่บ้างในช่วง 14 วันจากนี้ไปด้วย
ขณะที่ทางนายกอบชัย บุญอรณะ ผุ้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในขณะนี้ ทางจังหวัดชัยภูมิ เองก็จะต้องมีการพิจารณาเพื่อที่จะต้องมีการขยายเวลาสั่งปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ ที่มีการสั่งปิดไปแล้ว 14 วันมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. หลังวันที่ 23 เม.ย.นี้ หากยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทางจังหวัดชัยภูมิ ก็จำเป็นจะต้องมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งเพิ่มต่ออีกระยะในครั้งนี้ตามมาด้วยอีกครั้งต่อไป และโดยเฉพาะจากนี้ไปมาตรการป้องกันที่สำคัญและเด็ดขาดซึ่งหากพบว่าใครที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านเตือนแล้วไม่ฟังจะต้องมีโทษปรับ 20,000 บาท อีกด้วยต่อไป