“บิ๊กตู่” พร้อมตอบสนองเอกชนจัดหาวัคซีน ปัดรัฐดำเนินการช้า จัดหาน้อยเกินไป ขอเข้าใจตรงกัน ทุกอย่างพัฒนาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ประชาชนต้องอยู่บนความเสี่ยง ลั่นไม่นิ่งนอนใจดำเนินคดีแหล่งแพร่ระบาด วันที่ 20 เม.ย.64 เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อีกครั้ง เนื่องจากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้ววันนี้รัฐบาลได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ เราจะต้องพิจารณา 2 สัปดาห์นี้ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ว่ากราฟขึ้นหรือลงอย่างไร มันตกหรือไม่ตก จะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ ก็เพียงแต่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เรามีทั้งจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมอีก 59 จังหวัด ซึ่งเรายกระดับมาตรการในวันที่ 18 เม.ย. ก็ได้มีการทำงานร่วมกันบูรณาการทุกหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่มีส่วนในเรื่องของความร่วมมือด้วยความเข้าใจ ตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ออกมาตามมาตรการต่างๆ และต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสโซเชียลโจมตีรัฐบาลกรณีอยากให้เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนตอบสนองท่านแล้ว ไม่ใช่ว่าตนไม่ได้ทำมาตลอด ตนได้ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดำเนินการมาตลอด แต่ตนต้องการให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกคณะหนึ่งที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค. เป็นประธาน ก็ได้หารือสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และผู้รู้ทั้งหลายมาให้ข้อมูลตรงนี้ ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้อย่างไรให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามาในประเทศไทย วัคซีนสำคัญอีกตัว คือบริษัทเอกชนเวลาเขาจะนำออกมา เขาก็ต้องขออนุญาตรัฐบาลเขาเช่นกัน เราก็ติดต่อรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วย เพราะฉะนั้นเป็นความยากง่ายของเรา กราบเรียนว่าที่เราได้รับวัคซีนมาในช่วงแรก เราจัดซื้อ สั่งมา ในฐานะที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากในระยะที่ 1 เราก็จัดหาวัคซีนมาตามความจำเป็น เราไม่อยากทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ วันนี้เมื่อพิสูจน์ทราบมาแล้วตนก็เปิดโอกาส ช่องทาง ให้หลายๆยี่ห้อได้เข้ามาเสนอความต้องการจะขายวัคซีนให้กับเรา เราก็ต้องหาช่องทางว่าจะซื้อได้อย่างไร วันนี้เนื่องจากเป็นการติดต่อระหว่างรัฐต่อรัฐในการใช้วัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินเวลานี้ เพราะฉะนั้นต้องไปดูภาคเอกชนของเขา กับรัฐของเขาด้วย แล้วเราก็พร้อมที่จะรับวัคซีนของเขามาในขณะนี้ ก็ขอให้เข้าใจตรงนี้แล้วกัน ไม่ใช่เพราะเราจองช้าหรือช้าเกินไป จำนวนน้อยเกินไป ทุกอย่างมันพัฒนาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่อยากให้ประชาชนต้องมีความเสี่ยง ในตอนแรกที่เริ่มมีการผลิตวัคซีนออกมา หลายประเทศก็เช่นเดียวกันกับเรา ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนนั้นตนได้เร่งรัดให้มีการฉีดให้เร็วที่สุดในโควตาที่ให้ไป ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรับบริการวัคซีนให้ทั่วถึงตามกำหนดความเร่งด่วนออกไปในขณะนี้ของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ตนเร่งรัดในครม.ไปแล้ว ให้ทุกจังหวัด ให้กทม. เร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับไปให้เร็วที่สุด จำนวนมากที่สุดที่ได้ไปจนครบ และรัฐบาลก็เตรียมวัคซีนสำรองตรงนี้ไว้อีกด้วยในระยะต่อๆไปเพื่อให้ทั่วถึง เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้" นายกฯกล่าวอีกว่า ที่ถามว่ารัฐบาลไม่เปิดทางให้เอกชนเป็นเรื่องการผูกขาดนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะตนไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย คิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรจะปลอดภัย ทำอย่างไรจัดหาได้ และในส่วนของการดำเนินการเราไม่สามารถไปซื้อเหมือนซื้อยาปกติทั่วไปได้ เพราะเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน และบริษัทผู้ผลิตเอกชนนั้นไม่รับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียง จึงจำเป็นรัฐต้องเป็นผู้จัดหาในขณะนี้ ซึ่งต่อไปคงคลี่คลายตรงนี้ไปได้ เมื่อถามถึงการดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่ เครือข่ายที่เป็นสาเหตุแหล่งแพร่ระบาดเชื้อโควิด ตั้งแต่ขบวนการลักลอบค้าแรงงาน กรณีบ่อนพนัน และกรณีผับ บาร์ เลาจ์ ซึ่งหนึ่งในนายตำรวจที่ดูแลพื้นที่สน.ทองหล่อคือหลานเขย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีแหล่งแพร่ระบาดเหล่านี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และตนได้กำกับดูแล กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้มีการพิจารณาโทษ และลงโทษไปบ้างแล้ว และหลายอย่างเป็นเรื่องการตรวจสอบต่อไปให้หาถึงเจ้าของที่แท้จริงของสถานบริการต่างๆว่าใครเป็นเจ้าของ และจะดำเนินคดีต่อไป ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ ทั้งนี้ในทุกกรณีแหล่งแพร่ระบาดต่างๆตนได้มีการสอบสวนทุกกรณีไป นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเยียวยาประชาชน ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะประชุมหารือในเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมกับฝ่ายเศรษฐกิจว่าเราจะสามารถใช้งบประมาณต่างๆได้มากน้อยเพียงใด และในโครงการใดบ้าง แต่โครงการที่ค้างอยู่ในขณะนี้โครงการเราชนะ ซึ่งคงทำต่อไปในขณะนี้และในส่วนของมาตรา 33 โครงการอื่นที่จบไปแล้วก็จะพิจารณากันอีกครั้ง ก็คงได้คำตอบในเร็ววันนี้ เราก็ต้องนึกถึงรัฐบาลเรามีงบประมาณอยู่แค่ไหนอย่างไร เราไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ อย่างไรก็ต้องจัดหาให้จนได้ แต่จะหาด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง ว่าจะมีงบประมาณที่เพียงพอหรือไม่ในสถานการณ์เช่นนี้