คนงานผวาไม่มีใครกล้าขึ้นขับเครน หลังผึ้งหลวงรังใหญ่รุมต่อยหนุ่มขับเครนสาหัสในพื้นที่ก่อสร้างภายในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ด้านหัวหน้าคนงานสั่งห้ามขึ้นขับเครนเด็ดขาด เตรียมประสานผู้เชี่ยวชาญเรื่องผึ้งมาจัดการย้ายรังเพื่อความปลอดภัย
สืบเนื่องจากวันที่ 19 เม.ย. 64 นายปัญญา ปราณีต อายุ 28 ปี ที่อยู่ 90 หมู่ 15 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย คนงานขับเครนที่บริษัท สหการวิศวกร จำกัด จ้างมายกอุปกรณ์ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ถูกผึ้งหลวงที่สร้างรังอยู่ใต้ฐานขับเครนขนาดรังเท่ายางรถหกล้อรุมต่อยกว่าร้อยตัว โดยเหตุเกิดตั้งแต่เวลา 09.00 น. กว่าจะช่วยลงมาได้ล่วงเลยมาจนถึงเวลา 13.30 น. วานนี้ (19 เม.ย.) โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ได้ปีนขึ้นไปบนเครน ช่วยฉีดยาบรรเทาปวด และให้น้ำเกลือแก่ นายปัญญา ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนนายปัญญาอาการดีขึ้น จึงได้ใช้ตะขอรถเครนเกี่ยวกระบะพลาสติกขนาดใหญ่ขึ้นไปบนเครน แล้วตัว นายปัญญา ก็ลงไปอยู่บนกระบะจากนั้นบังคับเครนลงมาถึงพื้นดินได้อย่างปลอดภัย
โดย นายปัญญา พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรมชาย ชั้น 4 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ พบว่าแพทย์และพยาบาลได้นำเหล็กในของผึ้งที่ฝังติดอยู่ตามร่างกายนับได้กว่า 50 จุด ออกจนหมด และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
โดยแพทย์ระบุว่านายปัญญาโชคดีมากที่ไม่มีอาการแพ้เหล็กใน เพราะถูกผึ้งต่อยทั่วร่างกายขนาดนี้หากคนที่แพ้จะเกิดอาการช็อก แน่นหน้าอก ถึงขึ้นเสียชีวิตได้ ถือว่าโชคดีมาก
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณก่อสร้างภายในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ และพบว่าจุดที่เครนตั้งอยู่ คนงานได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ โดยห้ามทุกคนเข้าใกล้ และห้ามขึ้นไปขับเครนอย่างเด็ดขาด โดยพบว่าผึ้งยังคงบินอยู่รอบบริเวณเครน โดยมีรังขนาดใหญ่อยู่ใต้ฐานขับเครน
โดยหัวหน้าคนงาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสำหรับผึ้งหลวงรังดังกล่าว ได้มาทำรังอยู่ใต้ฐานตัวขับเครนได้ร่วม 1 เดือนแล้ว โดยจุดตัวเครนอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 40 เมตร ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายคนงาน คนขับเครนสามารถขึ้นไปทำงานได้ตามปกติ โดยเฉพาะนายปัญญา ที่ขึ้นไปทำหน้าที่ขับเครนทุกวัน แต่คืนวานนี้ (19 เม.ย.) ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อาจทำให้รังผึ้งถูกลมพัด เมื่อนายปัญญาขึ้นไปขับเครนจึงถูกรุมต่อย โดยขณะเกิดเหตุ นายปัญญายังไม่ทันได้เข้าไปนั่งห้องคนขับเครน เมื่อถูกผึ้งต่อยจึงหนีตายเข้าไปในห้องคนขับที่มีกระจก แต่กลุ่มผึ้งก็ยังหาช่องเข้าไปรุมต่อยนายปัญญา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไป เป็นที่น่าแปลกใจว่าผึ้งไม่ทำร้ายคนอื่น ยกเว้นนายปัญญาคนเดียว
ซึ่งในวันนี้ตนได้สั่งการให้คนงานนำแผงเหล็กไปกั้นบริเวณตัวเครนไว้ และสั่งห้ามทุกคนห้ามขึ้นไปยังตัวขับเครนเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย โดยได้นำแจ้งผู้บริหารบริษัทแล้วว่าต้องหาผู้เชี่ยวชาญเรื่องผึ้งมาย้ายรังผึ้งออก เพราะคนงานจะไม่สามารถทำงานได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าเยี่ยมอาการของนายปัญญาพบว่า อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และมีนางหนูเล็ก ปราณีต อายุ 50 ปี ที่อยู่ 90 หมู่ 15 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย มารดาคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นางหนูเล็ก แม่ของนายปัญญาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุลูกชายวีดีโอคอลมาคุยกับตน โดยใบหน้าบวมปูดเนื่องจากถูกผึ้งต่อย ตนจึงรีบโทรหาญาติในอำเภอท่าบ่อ ให้รีบมาดูลูกชาย ก่อนที่จะเหมารถจาก อ.เฝ้าไร่ เพื่อมาดูลูก “ตนคงไม่อยากให้ลูกทำงานตรงนี้แล้วเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูก ขณะเกิดเหตุลูกวีดีโอคอลมาหา ตนได้แต่ให้กำลังใจ โดยลูกชายพยายามบังคับเครนเพื่อยกกระบะขึ้นมารับตัวเอง แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากถูกผึ้งต่อยจนหมดแรง เมื่อตนมาถึงลูกชายได้ถูกนำลงมาแล้ว หลังจากลูกชายถูกผึ้งต่อยและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลยังไม่เห็นหัวหน้างานหรือผู้บริหารบริษัทมาเยี่ยมลูกเลย จึงอยากให้มาเยี่ยมดูอาการลุกชายของตนด้วย” นางหนูเล็ก กล่าว