ป.ป.ช.ชี้มูล ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ เป็นการทุจริต ไล่ออก นายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการ สกสค.ในคดีสำนักงาน สกสค.นำเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 800 ล้านบาท ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เพื่อร่วมทุนก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนบ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เมื่อปี 2558
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการทุจริต ดังนั้น สกสค.ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดจึงต้องดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน
การที่บอร์ด สกสค.มีมติไล่นายสมศักดิ์ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.นั้น เพราะต้องรักษาสิทธิทางกฎหมายกรณีที่ผู้โดนไล่ออกขอยื่นอุทธรณ์และป้องกันการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมาย มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้เครือข่ายภาคประชาชนตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ได้คัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนแห่งนี้มาโดยตลอด โดยยื่นหนังสือคัดค้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ถึงข้อกังวลและขอมีส่วนร่วมในการกำหนดวิถีชีวิตของประชาชนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพัฒนาของรัฐ
เนื่องจากว่ามีข้อสงสัยและความไม่โปร่งใสในโครงการนี้ คือ
1.การจัดทำประชาพิจารณ์ชาวบ้านในตำบลโพนสว่าง เมื่อปี 2554 ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทุกคนในตำบลรับทราบ เพียงแต่เอาตัวแทนชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน มาร่วมนั่งรับฟังในบ้านละ 10 กว่าคน และให้ลงชื่อในเอกสารเปล่าๆที่ไม่มีข้อความอะไร แล้วมีการแก้ไขดัดแปลงข้อความเพิ่มเติมในภายหลังว่า "เป็นแบบสอบถามและการแสดงความเห็นของชาวบ้านว่าเห็นควรให้สร้างโรงงานภาษาขยะในตำบลโพนสว่าง" เป็นการบิดเบือนและไม่โปร่งใส
2.และที่เลวร้ายไปกว่านั้น ใส่จำนวนรายชื่อผู้ที่ลงในประชาคมนั้น ปรากฏมีรายชื่อคนที่ตายไปแล้วอยู่ด้วย
3.หน่วยงานราชการและบริษัทนายทุนผู้รับสัมปทานในการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ไม่ได้มีการจัดเวทีสาธารณะ เพื่อให้ความรู้ถึงผลดีหรือผลเสียของโครงการดังกล่าว และมีการกีดกันการเข้าถึงข้อมูลของโครงการฯ
4.ที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะไม่เหมาะสม คือ อยู่ห่างจากหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน วัด ไม่ถึง 1 กิโลเมตร และตั้งอยู่บนเนินหลังเต่า ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งของทุ่งนาและหมู่บ้าน หากมีน้ำเน่าเสียเกิดขึ้น อาจจะไหลลงสู่แหล่งน้ำประปา ,แม่น้ำธรรมชาติ และทุ่งนาของชาวบ้าน
5.การได้มาซึ่งที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยของโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือที่ดินบางแปลงที่นายทุนกว้านซื้อมานั้น เป็นที่ดินหัวไร่ปลายนาซึ่งไม่มีเอกสารที่ดิน บางแปลงยังเป็นที่ดิน สค.1 และบางแปลงผู้ขายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน
6.ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวลเรื่องของมลพิษทางอากาศ ถังน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหากมีการตั้งโรงงานไฟฟ้าขยะในตำบลโพนสว่าง เนื่องจากว่ามีปรากฏข่าวตามช่องทีวีและหนังสือพิมพ์มากมาย เกี่ยวกับปัญหาของมลพิษที่เกิดขึ้นกับโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในตำบลโพนสว่างแล้ว ก็ยากที่จะต้องแก้ไข
จนกระทั่ง ป.ป.ช. ชี้มูล ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ เป็นการทุจริต ไล่ออก นายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการ สกสค.ในคดีสำนักงาน สกสค.นำเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 800 ล้านบาท ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เพื่อร่วมทุนก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนบ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง.
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการทุจริต ดังนั้น สกสค.ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดจึงต้องดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน
การที่บอร์ด สกสค.มีมติไล่นายสมศักดิ์ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.นั้น เพราะต้องรักษาสิทธิทางกฎหมายกรณีที่ผู้โดนไล่ออกขอยื่นอุทธรณ์และป้องกันการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมาย มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้เครือข่ายภาคประชาชนตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ได้คัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนแห่งนี้มาโดยตลอด โดยยื่นหนังสือคัดค้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ถึงข้อกังวลและขอมีส่วนร่วมในการกำหนดวิถีชีวิตของประชาชนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพัฒนาของรัฐ
เนื่องจากว่ามีข้อสงสัยและความไม่โปร่งใสในโครงการนี้ คือ
1.การจัดทำประชาพิจารณ์ชาวบ้านในตำบลโพนสว่าง เมื่อปี 2554 ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทุกคนในตำบลรับทราบ เพียงแต่เอาตัวแทนชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน มาร่วมนั่งรับฟังในบ้านละ 10 กว่าคน และให้ลงชื่อในเอกสารเปล่าๆที่ไม่มีข้อความอะไร แล้วมีการแก้ไขดัดแปลงข้อความเพิ่มเติมในภายหลังว่า "เป็นแบบสอบถามและการแสดงความเห็นของชาวบ้านว่าเห็นควรให้สร้างโรงงานภาษาขยะในตำบลโพนสว่าง" เป็นการบิดเบือนและไม่โปร่งใส
2.และที่เลวร้ายไปกว่านั้น ใส่จำนวนรายชื่อผู้ที่ลงในประชาคมนั้น ปรากฏมีรายชื่อคนที่ตายไปแล้วอยู่ด้วย
3.หน่วยงานราชการและบริษัทนายทุนผู้รับสัมปทานในการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ไม่ได้มีการจัดเวทีสาธารณะ เพื่อให้ความรู้ถึงผลดีหรือผลเสียของโครงการดังกล่าว และมีการกีดกันการเข้าถึงข้อมูลของโครงการฯ
4.ที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะไม่เหมาะสม คือ อยู่ห่างจากหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน วัด ไม่ถึง 1 กิโลเมตร และตั้งอยู่บนเนินหลังเต่า ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งของทุ่งนาและหมู่บ้าน หากมีน้ำเน่าเสียเกิดขึ้น อาจจะไหลลงสู่แหล่งน้ำประปา ,แม่น้ำธรรมชาติ และทุ่งนาของชาวบ้าน
5.การได้มาซึ่งที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยของโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือที่ดินบางแปลงที่นายทุนกว้านซื้อมานั้น เป็นที่ดินหัวไร่ปลายนาซึ่งไม่มีเอกสารที่ดิน บางแปลงยังเป็นที่ดิน สค.1 และบางแปลงผู้ขายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน
6.ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวลเรื่องของมลพิษทางอากาศ ถังน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหากมีการตั้งโรงงานไฟฟ้าขยะในตำบลโพนสว่าง เนื่องจากว่ามีปรากฏข่าวตามช่องทีวีและหนังสือพิมพ์มากมาย เกี่ยวกับปัญหาของมลพิษที่เกิดขึ้นกับโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในตำบลโพนสว่างแล้ว ก็ยากที่จะต้องแก้ไข
จนกระทั่ง ป.ป.ช. ชี้มูล ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ เป็นการทุจริต ไล่ออก นายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการ สกสค.ในคดีสำนักงาน สกสค.นำเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 800 ล้านบาท ซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เพื่อร่วมทุนก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนบ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง.