"นักวิชาการ"จี้เอาผิด"ลูกศิษย์" สำนักสงฆ์ภูหินกองหลายข้อหาหนัก กรณีอดีตเจ้าสำนักสงฆ์ตัดศีรษะตัวเองเสียชีวิต ชี้รู้เห็น ทำลายหลักฐาน การจัดตั้งสำนัก ชี้โทษเบาสุดจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท จากกรณี อดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม หรือ นายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง บ้านนาแค จ.หนองบัวลำภู สร้างอุปกรณ์คล้ายเครื่องกิโยติน ทำการตัดศีรษะตัวเองขาดจากลำตัวภายในสำนักสงฆ์ เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา โดยลาสิกขาบทเมื่อวันที่ 14 เม.ย. แต่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นทางลูกศิษย์ทั้งหญิงและชายได้เคลื่อนย้ายศพของพระธรรมกร เอาไว้ในโลงศพสีน้ำตาลแกะสลักและมีโลงใบเล็กๆ วางอยู่ด้านบน คาดว่าจะเป็นศีรษะของพระธรรมกร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขึ้นไปพบ โดยทางญาติและลูกศิษย์ไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตาย ที่ให้คำมั่นว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปี ในวันที่ 15 เมษายน 2564 ผู้ตายจะสักการบูชาพระพุทธเจ้า โดยการตัดศีรษะของตนเอง เพื่อที่ตนเองจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เม.ย. รายการโหนกระแส ซึ่งมีหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินการการ ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าว โดย ดร.อินทพร จั่นเอี่ยม ผู้ตรวจราชการสำงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับความเชื่อดังกล่าวส่วนตัวนั้นเพิ่งเห็น และไม่เชื่อในความเชื่อนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการตัดหัวถวายแบบนี้ ตามหลักคำสอนที่ตนเองเห็น ภิกษุที่ทำร้ายร่างกายมนุษย์ ชีวิตมนุษย์ถือว่าเป็นบาปหนัก ซึ่งสิ่งที่เชื่อกันนั้นเป็นเพียงนิทานชาดกที่ถูกเติมแต่งเท่านั้นเอง การจะเชื่อคำสอนต้องดูที่พระวินัย ดูข้อมูลพุทธประวัติประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ไม่ได้รับการอนุญาตจัดตั้งเป็นวัด เป็นเพียงการปฏิบัติของลูกศิษ์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์จังหวัดหนองบัวลำภู แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีพุทธะแปลกๆ ออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง จึงมีความเป็นห่วงทำสอนที่แท้จริงจะถูกบิดเบี้ยว เราควรปฏิบัติตามคำสอนที่ถูกต้องด้วย ทางด้าน อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ เปิดเผยว่า “สำหรับคำสอนดังกล่าวนั้น เป็นคำความเชื่อแบบผิดๆ เป็นการศึกษาแบบไม่เข้าใจ ศึกษาเพียงผิวเผิน เชื่อในเรื่องของนิทานชาดกมากเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัย พ.ศ.1700 แล้ว และเก่าด้วย นอกจากยังมีเรื่องเล่าในชาดก และนอกชาดกตั้งหลายเล่ม เราควรที่ศึกษาให้ถ่องแท้ในส่วนของพระไตรปิฎก และพระวินัย จึงจะสามารถนำคำสอนและความเชื่อเหล่านั้นมาปฏิบัติให้เกิดผลในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาจัดการเรื่องนี้อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่ดิน การจัดตั้งสำนักสงฆ์ รวมถึงการทำลายหลักฐานพยาน เคลื่อนย้ายศพเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หลายข้อกฎหมายด้วยกัน ส่วน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายว่า “ทางลูกศิษย์นั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 293 ผู้ใดช่วยหรือยุยงเด็กอายุยังไม่เกินสิบหกปี หรือผู้ซึ่งไม่สามารถเข้าใจว่าการกระทำของตนมีสภาพหรือสาระสำคัญอย่างไร หรือไม่สามารถบังคับการกระทำของตนได้ ให้ฆ่าตนเอง ถ้าการฆ่าตนเองนั้นได้เกิดขึ้นหรือได้มีการพยายามฆ่าตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังผิดประมวลกฎหมายอาญาตามาตรา 374 ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิตซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางลูกศิษย์นั้นย่อมรู้เห็นในการเสียชีวิตครั้งนี้ เพราะการสร้างกิโยตินไม่สามารถสร้างผู้เดียวได้ ต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิดถึงจะสำเร็จ และการเคลื่อนย้ายศพ อาจจะเป็นการทำลายหลักฐานด้วยหรือไม่