นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 (พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ) ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรการช่วยเหลือได้แก่ 1. มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) 2.มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้) ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2564
ทั้งนี้ ธปท.ได้ออกประกาศจำนวน 2 ฉบับ เพื่อกำหนดขอบเขตคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจที่สามารถเข้าร่วมโครงการ หลักการ และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ พ.ร.ก.ดังกล่าว โดยสถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอกู้เงินจาก ธปท. ตามมาตรการสนับสนุนให้สินเชื่อฟื้นฟู และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.นี้เป็นต้นไป
โดยกระทรวงการคลัง และ ธปท.ได้เตรียมความพร้อมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สามารถกระจายเม็ดเงินไปสู่ลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยขอให้สถาบันการเงินรับคำขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ได้ตั้งแต่ พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ มีผลบังคบใช้ โดยลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ธปท. www.bot.or.th และติดต่อสถาบันการเงินให้ใช้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูง และยังคงแพร่ระบาดเป็นวงกว้างนั้น ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ โดยพร้อมที่จะออกมาตรการช่วยเหลือที่จำเป็นเพิ่มเติมจากมาตรการฟื้นฟูฯครั้งนี้”
สำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหารือกับผู้ให้บริการทางการเงิน สมาคม ชมรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลลูกหนี้รายย่อยผ่านมาตรการการให้ความช่วยเหลือ และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้อย่างต่อเนื่อง