ผอ.โรงเรียนนราธิวาส เผย คณะครูนักเรียนกักกันตัวครบ 14 วัน ผ่านไปด้วยดีไม่พบผู้ติดเชื้อ สำคัญคือน้ำใจที่ให้กันระหว่างการกักกันตัว เร่งประชุมหารือ เตรียมมาตรการเปิดภาคเรียนกลางเดือนพฤษภาคม 64 นี้ พร้อมนำมาตรการในปีที่ผ่านมา ปรับใช้ในรูปแบบการสอน แบบ "New Normal" วันที่ ( 19 เม.ย.64 ) เวลา 11.00 น. นายนิกร เซ้งเถียร ผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส เปิดเผยว่า ในช่วงของการกักกันตัว 14 วัน ของคณะครูนักเรียนโรงเรียนนราธิวาส และบุคลากรของโรงเรียนนราธิวาส ในสถานที่กักกันตนชั่วคราว ภายในโรงเรียนนราธิวาส ซึ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม หลังจากที่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ก็ได้เข้ามาตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิโรค เป็นประจำทุกวัน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมถึงกรณี ที่มีนักเรียนโรงเรียนนราธิวาส 1 ราย ที่ไปเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการดังกล่าว และได้กักกันตัว 14 วันนั้น พบว่ามีร่างกายอ่อนเพลีย และมีอาการไข้ ตัวร้อน และได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เมื่อหลายวันก่อน ซึ่งแพทย์ได้ตรวจวินิจฉัย เพื่อคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่าผลเป็นลบ และปรากฏว่าเป็นเพียงอาการไข้หวัด เนื่องจากอากาศร้อน และอ่อนเพลียจากการเดินทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส ยังได้กล่าวอีกว่า จากการกักกันตัวของคณะครู และนักเรียนในครั้งนี้ยังได้เห็นไมตรีจิต ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคณะครูและนักเรียน ที่มีให้กัน ดูแลกัน จนผ่านพ้นช่วงเวลากักกันตัวไปด้วยกันด้วยดี พร้อมทิ้งท้ายว่า “ในช่วงนี้ทางโรงเรียนจะมีการประชุมหารือเตรียมความพร้อม การเปิดภาคเรียนช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 64 นี้ ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังไม่คลี่คลาย และอาจจะต้องเรียนออนไลน์ “ ซึ่งในมิติของการเรียนการสอน ทางโรงเรียนนราธิวาสก็ได้นำมาตรการจัดการการเรียนการสอนของปีที่แล้ว ซึ่งได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่นเดียวกัน มาปรับใช้ในปีนี้ ในยุคการเรียนการสอน แบบ” New Normal” นางเจ๊ะรอนิง หะยียะโกะ ครูโรงเรียนนราธิวาส 1 ในผู้กักกันตัวฯ บอกว่า การสร้างกำลังใจให้กันและกัน ในยามกักกันตัว ถือเป็นพลังสำคัญที่จะก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน และสิ่งที่เราเห็นคือน้ำใจให้กันและกันซึ่งมีการระดมทุนช่วยเหลือจำนวนหนึ่งมอบให้คุณลุงที่ทำหน้าที่ขับรถ ที่นำคณะฯไปร่วมไปกิจกรรมวิชาการ ที่ผ่านมา และเนื่องจากคุณลุงเป็นเสาหลักของครอบครัว และภรรยาประกอบอาชีพขายข้าวยำ เมื่อถูกกักกันตัวจึงทำให้ขาดรายได้เป็นเวลาหลายวัน ซึ่งน้ำใจเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มันมีคุณค่าทางใจมากๆสำหรับคนที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ นายประสิทธิ เนตรภักดี พนักงานขับรถโรงเรียนนราธิวาส บอกกล่าวด้วยความปลึ้มและซึ้งใจ ในน้ำใจของคณะครูซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่ระดมทุนช่วยเหลือตนในยามลำบาก เนื่องจากขาดรายได้หาเลี้ยงครอบครัว พร้อมขอบคุณผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส และคณะครูทุกท่านที่หยิบยื่นน้ำใจมาให้ในครั้งนี้