ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ศาสตราจารย์ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา เพื่อรองรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง กว่า 100 เตียง โดยมี นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผศ.ไพศาล บุรินทร์วัฒนา อธิการบดี พร้อมผู้บริหาร บุคลากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) ต้อนรับ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดจะปรับพื้นที่หอประชุมใหญ่ มทร.สุวรรณภูมิ เป็นโรงพยาบาลสนามในเบื้องต้น 100 เตียง เพื่อแยกผู้ป่วยที่มีอาการน้อย/ไม่มีอาการ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาควบคุมโรค มีทีมแพทย์คอยดูแล ซึ่งพื้นที่โรงพยาบาลสนามนี้มีความเหมาะสม เนื่องจากติดถนนหลัก และห่างไกลจากแหล่งที่อยู่อาศัยของประชาชน ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับผิดชอบเตรียมงบประมาณและจัดหาวัสดุอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อพร้อมต่อการรองรับผู้ป่วย โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงานจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในครั้งนี้ ผศ.ไพศาล บุรินทร์วัฒนา อธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีความยินดีอย่างยิ่งในการให้ใช้สถานที่เป็นพื้นที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อช่วยเหลือการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว. ไม่ได้มีแต่เพียงมหาวิทยาลัย แต่ยังมีหน่วยวิจัยและพัฒนาอีกหลายแห่งที่จะเข้าไปช่วยตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อเกิดวิกฤติ ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ดีใจที่ อว.เป็นกองหนุนที่พร้อมทำงานในทุกจังหวัดเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกสาม และประทับใจมากๆ คือ จิตอาสาของชาติ พลทหารจากกองโรงงานวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก (ช่างแสง อยุธยา ) และกองพันทหารม้าที่ 24 กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ จังหวัดสระบุรี ส่งกำลังพลมาช่วยขนเตียง ประกอบเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วย ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือขวัญและกำลังใจ การที่ทุกหน่วยของ อว.ร่วมมือร่วมใจกันเปิดโรงพยาบาลสนาม ก็เพื่อให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ อยากบอกประชาชนไทยว่า “อย่าวิตก ประเทศเรา มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” และขอให้ความมั่นใจว่า “เราจะผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอก 3 ไปได้อย่างแน่นอน”