สสจ.บุรีรัมย์ เผยไทม์ไลน์ ผู้ป่วยชายไทย วัย 56 ปี เสียชีวิตจากโควิด-19 ทำงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ กลับมาบ้านภรรยาที่บุรีรัมย์ ไม่แจ้งมาจากพื้นที่เสี่ยง กักตัวอยู่บ้าน จนทรุดส่ง รพ.เสียชีวิต อีกทั้งเมียติดโควิด ด้วย พบผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 36 คน ผู้ว่าฯ วอนเข้ามาในพื้นที่บุรีรัมย์ ให้ข้อมูลตามจริง อย่าปกปิด ต้องรักษาตนเอง อยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด วันนี้ (19 เม.ย.) นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อปรับแนวทางการดำเนินงานด้านการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังพบมีผู้ป่วยชายไทย อายุ 56 ปี เสียชีวิต ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ห้องประชุม ชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลประโคนชัย ว่า มีผู้ป่วยชายไทย อายุ 56 ปี เสียชีวิต ด้วยภาวะการหายใจล้มเหลว ที่ รพ.ประโคนชัย เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.เศษ ของวันที่ 17 เม.ย.64 โดยผู้ป่วยรายนี้กลับมาจากพื้นที่กรุงเทพฯ มาบ้านภรรยา ที่หมู่บ้านโคกสะอาด ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยมาถึงตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.64 เวลาประมาณ 05.00 น.แล้วรายงานตัว อสม. ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน วันที่ 8-10 เม.ย.64 อยู่ที่บ้าน ไม่มีอาการใดๆ เดินไปที่บ้านพี่สาวภรรยา ที่อยู่ข้างๆ วันที่ 11 เม.ย.64 เริ่มมีอาการเจ็บคอ และไอเล็กน้อย ก็ให้หลานไปซื้อยาจากร้านขายยาในหมู่บ้าน วันที่ 12 เม.ย.64 อยู่ที่บ้าน เดินไปบ้านพี่สาวภรรยา วันที่ 13 เม.ย.64 นั่งเล่นเป็นกลุ่มกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีเด็ก และภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่นน้ำ เป็นอ่างลมสระน้ำขนาด 2 คูณ 3 เมตร ไม่ใช่เล่นน้ำสงกรานต์ วันที่ 14-16 เม.ย.64 มีอาการไอเล็กน้อย อยู่ที่บ้าน วันที่ 17 เม.ย.64 เริ่มมีอาการเหนื่อยขึ้น มีไข้ ไปรักษาที่คลินิกทางเข้าหมู่บ้านแยกพาชี ให้ยามากิน และฉีดยา อาการก็ทุเลาลงชั่วคราว เวลาประมาณ 22.00 น. เริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงเรียกรถ 1669 พื้นที่ อ.ประโคนชัย เป็น FR อบต.ปังกู ไปรับผู้ป่วยที่บ้าน ระหว่างทางพบผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องของหายใจเร็ว เหนื่อยหอบมากขึ้น ก็เรียกรถ EMS ของ รพ.ประโคนชัย มารับครึ่งทาง แต่ในระหว่างทางที่ขนย้ายมาที่ รพ. พบว่าผู้ป่วยหยุดหายใจก็มีการปั๊มหัวใจบนรถ EMS ก็ดูแลจนฟื้นคืนชีพ โดยการน็อคหัวใจ ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ประโคนชัย จนกระทั่งผู้ป่วยมีการเสียชีวิต และในภายหลัง เจ้าหน้าที่ก็ทราบว่า ผู้ป่วยรายนี้ ได้เคยทำงานอยู่ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ และมีการตรวจ Rapid Test ให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งก็พบว่า Rapid Test ให้ผลเป็น บวก และก็ได้มีการตรวจRapid Test ให้กับภรรยาด้วย ให้ผลเป็น บวก เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการเชื้อโควิด-19 ทั้งสามี และภรรยา “ทำให้พื้นที่ชุมชน เจ้าหน้าที่ได้ไปสอบสวนโรค พบผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ามาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 36 คน ได้ดำเนินการตรวจเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว จะมีการตรวจ PCR ทุกครอบครัว ในพื้นที่ตรงนั้น ครอบครัวละ1 คน ที่มีความเสี่ยงสูง สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ก็พบว่ามีความเสี่ยงสูงจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 5 คน ซึ่งก็จะมีการตรวจ PCR นี่คือสิ่งที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ อ.ประโคนชัย เป็นที่มาของการปิดพื้นที่บางพื้นที่ของ อ.ประโคนชัย” นพ.สสจ.บุรีรัมย์ กล่าว นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากรายงานของ สสจ.บุรีรัมย์ พบว่าผู้เสียชีวิต มาพื้นที่แล้ว ไม่บอกว่าเป็นอะไร พอถึงมือแพทย์ก็หายใจไม่ออก ทำให้เสียชีวิต มาตรวจสอบถึงรู้ว่า ป่วยเป็นโควิด-19 หากผู้ป่วยได้มาบอกกล่าว แล้วตรวจหาเชื้อโควิดก่อน ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ก็จะไม่เกิดการสูญเสีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ และญาติได้ทำการฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ว ขอให้พี่น้องคนบุรีรัมย์ ไม่ต้องตื่นตระหนก “ในฐานะ ผวจ.บุรีรัมย์ ขอวิงวอนคนไทยทุกคน และคนบุรีรัมย์ ที่อาศัยอยู่ในบุรีรัมย์ ทางบุรีรัมย์ พยายามไม่ให้มีการแพร่ระบาดโควิด แต่จากการระบาดในระลอกที่สาม อยากจะให้พวกเราได้ร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าเราเดินทางมารู้ว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยง มีครอบครัวหรือคนที่รู้จักเพื่อน หรือไปสถานที่ติดเชื้อ ที่มีการประกาศว่าติดเชื้อ ต้องพยายามไม่ไปไหน รวมถึงสามารถมาตรวจหาเชื้อ โดยวิธีการ Rapid Test ถ้ามาจาก จ.เสี่ยงตรวจฟรี เป็นมาตรการที่สำคัญที่จะทำให้ เมืองบุรีรัมย์ ที่ปลอดเชื้อมานาน จะได้ไม่มีการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ เราต้องหยุดให้ได้ ควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้ จึงขอวิงวอนคนบุรีรัมย์ทุกคนต้องรักษาตนเอง อยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด” นายธัชกร กล่าว