ตำรวจควบคุมตัวพลทหารอุกฤษณ์ ทองสมสี โจรบุกเดี่ยวใช้ปืนพกสั้นจี้ชิงทองในร้านทองห้างบิ๊กซีคลองแห อ.หาดใหญ่ เผยเหตุแรงจูงใจอ้างหาเงินใช้หนี้จากการขับรถไปชนคนเป็นหนี้ 2 แสน ต้องผ่อนจ่ายและเงินเดือนไม่พอใช้ พบประวัติเคยถูกจับกุมคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี2558 มาแล้ว 1 คดี หลังจากที่ตำรวจจับกุม พลทหารอุกฤษณ์ ทองสมสี อายุ 24 ปีซึ่งเป็นทหารเกณฑ์สังกัดกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือสงขลา โจรบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทองห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ อ.หาดใหญ่ ได้แล้วในวันนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ 18 เม.ย. 64 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภารค 9 ,พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ,พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รองผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.จ.สงขลา พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว พลทหารอุกฤษณ์ฯ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุที่ร้านทองเกิดเหตุในห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ โดยมีการจัดกำลังดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบจุดทำแผน เริ่มจากจุดที่ พลทหารอุกฤษณ์ ขับรถเก๋งมาจอดไว้ที่ลานจอดรถ เดินเข้าห้างทางประตูหน้า ลงชื่อจุดคัดกรองโควิด ผ่านจุดตรวจค้นของ รภป.ซึ่งค้นเฉพาะกระเป๋าสะพายแต่ไม่ได้ค้นตัวซึ่งพกอาวุธปืนไว้ที่เอว จากนั้นขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ร้านทองห้างทองเยาวราชกรุงเทพ แต่มีลูกค้าอยู่จึงเดินวนไปก่อน โดยไปเข้าห้องน้ำและเดินวนมาขึ้นบันใดเลื่อนอีกรอบและลงมือก่อเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ขณะลงมือก่อเหตุ จากนั้นจึงออกจากห้างไปขึ้นรถเก๋งที่จอดไว้ที่ลานจอดรถขับหลบหนี สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุ ทางพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการสอบถามพลทหารอุกฤษณ์ อ้างว่าเป็นหนี้และเงินเดือนไม่พอใช้จ่าย โดยก่อนหน้านี้ได้ไปขับรถชนคนและต้องจ่ายเงินให้คู่กรณี 2 แสนบาท และทยอยจ่ายมาเรื่อย แต่พักหลังขาดส่งไปหลายเดือนเพราะเงินเดือนไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงลงมือก่อเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปเช่ารถเก๋งคันนี้มาก่อเหตุ ขณะลงมือไม่ได้มีการวางแผนหรือดูลาดเลามาก่อนเพราะเคยมาใช้บริการที่ร้านทองแห่งนี้อยู่แล้ว เมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ ส่วนสร้อยคอทองคำที่ได้ไปคนร้ายบอกว่าไม่ได้นับว่ามีกี่เส้นและได้นำไปขายและจำนำไปบางส่วน ซึ่งจำนวนทองที่ทางร้านทองแจ้งไว้จำนวน 14 เส้น หนัก 3 บาท 9 เส้น และ 4 บาท 5 เส้น รวมน้ำหนักทอง 47 บาท หลังจากนี้ก็จะต้องไปสอบสวนขยายผลทองที่เหลือเพราะตำรวจยึดคืนมาได้แค่ 10 เส้นเท่านั้น ส่วนของกลางที่ก่อเหตุตำรวจก็ยึดได้ทั้งหมดทั้งอาวุธปืนขนาด.38 และเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และจากการตรวจสอบประวัติพลทหารอุกฤษณ์ พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีทรัพย์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2558 มาแล้ว 1 ครั้งด้วย หลังทำแผนตำรวจได้ควบคุมตัว พลทหารอุกฤษณ์ ไปควบคุมตัวที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมและเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดี