ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ตัวเลขจะค่อยๆ ลดลง แนวโน้มเริ่มคุมได้ หลังมีมาตรการทยอยออกมา แต่กระนั้นยังต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย คาดยอดตายยังเพิ่ม ยังห่วงเชื้อแพร่กระจายไปในที่ทำงาน ให้เน้น WFH ป้องกันตัวเองสูงสุด ขณะยาฟาวิพิราเวียร์ มีอยู่ในมือ 2 แสนเม็ด สั่งซื้อเพิ่มแล้วอีกล้านเม็ด และมีออเดอร์อีกล้านเม็ด ปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้าได้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่า แม้วันนี้ตัวเลขจะพุ่งสูงที่ 1,767 ราย เรียกว่าขาขึ้นค่อนข้างมาก และวันนี้เป็นวันแรกของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่จะเริ่มบังคับใช้ และวันนี้คนไทยมีความรู้เรื่องโรคระบาดค่อนข้างมาก ซึ่งจากการคาดการณ์ของนักระบาดวิทยา พบว่าจากที่ปิดสถานบันเทิง สถานการณ์เริ่มลดลง การระบาดเริ่มชะลอตัว มีแนวโน้มเริ่มคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งคาดภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ตัวเลขจะค่อยๆ ลดลง
ทั้งนี้ พบการระบาดรอบนี้จากสถานบันเทิง ไปติดต่อที่บ้าน ครอบครัว ที่ทำงาน ชุมชน และไปติดในที่ทำงานมากขึ้น มีการกระจายไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการติดในโรงเรียน เด็กจะไม่ค่อยมีอาการ แต่เป็นห่วงผู้สูงอายุ แนะนำอย่าให้เด็กเข้าใกล้ผู้สูงอายุมากนัก อย่างไรก็ตาม คาดจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และการระบาดในที่ทำงาน จึงแนะนำให้มีมาตรการทำงานที่บ้านเป็นมาตรการสำคัญ ขณะที่การทำงานที่บริษัทต้องมีการคัดกรอง ต้องใส่หน้ากากไว้ตลอดเท่าที่ทำได้ งดกิจกรรมกลุ่ม ไม่รับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน
สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะนี้มี 500,000 เม็ด สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม รมว.สธ.ได้ให้องค์การเภสัชกรรมจัดซื้ออีก 1 ล้านเม็ด และมีแนวโน้มจะจัดซื้อเพิ่มได้อีก 1 ล้านเม็ด จะมีการส่งมอลได้ปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า