เจ้าสัวซีพีทุ่มงบ 200 ล้านบาท เสริมกำลัง รพ.สนาม สู้เวฟ3 โควิด-19 ครอบคลุมอาหาร เครื่องมือ อุปกรณ์ เริ่มจาก รพ.สนาม จุฬา พร้อมต่อยอด รพ.รามาธิบดี ศิริราช รพ.พระมงกุฎเกล้า ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ รพ.ตำรวจ และรพ.อื่นๆต่อไป พร้อมแนะให้รัฐบาลเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับพนักงาน ลดภาระภาครัฐ โดยเอกชนออกค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดหาวัคซีนสำหรับพนักงาน
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 วันนี้เป็นตัวเลขที่สูงสุดอีกวันหนึ่ง ที่มีผู้ติดเชื้อถึง 1,767 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมในโรงพยาบาลสูงถึง 13,568 ราย ซึ่งโรงพยาบาลก็เริ่มประสบปัญหาเตียงไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาลสนาม 571 ราย ซึ่งต่อไปจะมีตัวเลขสูงมากขึ้น สำหรับคนทั่วไป สามารถช่วยส่วนรวมได้โดยการดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ ลดภาระทางการแพทย์ และในส่วนของภาคเอกชนก็เป็นหน้าที่ต้องเข้ามาช่วยอีกแรง โดยเฉพาะเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เตรียมงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเรื่องโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลต่างๆ เน้นไปที่สิ่งที่เครือทำได้เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และเสริมอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาด
โดยบริษัททุกบริษัทในเครือจะมาช่วยผนึกกำลังเพื่อช่วยเสริมบุคลากรทางการแพทย์ ที่เสียสละเป็นอย่างมาก โดยเริ่มต้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และต่อยอดไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อาทิ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลของทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เป็นต้น
"มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นคนไทย และเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ดำเนินธุรกิจอยู่บนแผ่นดินไทยมาเป็นเวลา 100 ปี จึงตระหนักดีว่านี่คืออีกสถานการณ์หนึ่งที่สำคัญซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องเข้ามาช่วยเหลือตามสรรพกำลังที่มีอยู่ ในการนี้เห็นว่าการรับมือด้านสาธารณสุขมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมกันนี้จะจัดส่งอาหารครบ 3 มื้อให้กับโรงพยาบาลสนามของรพ.จุฬาลงกรณ์ฯ รวมถึง Hospitel อีก 4 แห่งในความรับผิดชอบของรพ.จุฬาลงกรณ์ฯ และจะให้กลุ่มทรูจัด ไวไฟบริการฟรีในโรงพยาบาลสนามของจุฬาลงกรณ์ที่จะเปิดใหม่นี้ด้วย"
ทั้งนี้หากรัฐบาลเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับพนักงานจะถือว่าเป็นการลดภาระภาครัฐ โดยเอกชนออกค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดหาวัคซีนสำหรับพนักงาน ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องคนไทยจะก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย เชื่อมั่นว่า คนไทยและประเทศไทยจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 นี้ไปได้อย่างแน่นอน ขอเพียงทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันตามกำลังความสามารถ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ในเร็ววันนี้
ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยกล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง คนไข้มีจำนวนมากขึ้น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้เตรียมการโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับบุคลากร และนิสิตที่มีการติดเชื้อรวมถึงการเปิดให้กับผู้ป่วยต่อไปด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยอาการปานกลางและอาการหนัก มีพื้นที่เพียงพอในโรงพยาบาล ทั้งนี้ต้องขอบคุณท่านประธานธนินท์ และบริษัทในเครือซีพี ที่เป็นองค์กรเอกชนที่มีความตั้งใจดี ในการเข้ามาสนับสนุนดำเนินโครงการทั้งเรื่องโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ให้ประสบความสำเร็จและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
ศ.ดร.นพ.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนายการ โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฯ กล่าวว่า สถานการณ์ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีแนวโน้มที่โรงพยาบาลจะรองรับได้ไม่ครบถ้วน ทำให้โรงพยาบาลได้ประชุมเพื่อร่วมกันต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยจับมือกันเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยจะเริ่มให้บริการได้ในสัปดาห์หน้า