วันที่ 18 เม.ย.64 ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.ประชามติ เพราะมีความสำคัญและเกี่ยวโยงกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อวันที่ 7-8 เม.ย. ที่ผ่านมา พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ผ่านและองค์ประชุมไม่ครบ และในช่วงที่ปิดสมัยประชุมก็จะไม่มีการเปิดสภาวิสามัญจะประชุมอีกครั้งในสมัยสามัญ เปิดประชุมสภาสมัยสามัญเปิดในวันเสาร์ที่ 22 พ.ค. นี้ และกว่าจะเริ่มประชุมได้ก็จะติดวันที่ 26 พ.ค.64 เป็นวันวิสาขบูชา ส่วนที่วันที่ 27-28 พ.ค. 64 ก็เป็นงบประมาณวาระ1 ของปี 2565 เข้าในที่ประชุม ประมาณเดือนมิ.ย. ถึงจะได้เริ่มประชุม เพราะฉะนั้นต้องเร่งให้มีการประชุมเรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ ไม่อย่างนั้นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 50 แต่ไม่สำเร็จ และในรัฐธรรมนูญปี 60 พรรคเพื่อไทยก็ยังคงยื่นยันแนวทางเดิมเพราะการที่มี ส.ส.ร. หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาจากประชาชน เห็นได้จากรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา เราจึงผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญที่มาจาก ส.ส.ร. ที่เป็นตัวแทนของประชาชน และมีโอกาสที่จะแก้ไขได้ทั้งฉบับ ถ้าประชาชนร่วมกันได้ 5 หมื่นชื่อ ก็จะสามารถยื่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ขณะเดียวกันถ้าแนวทางการแก้ทั้งฉบับไม่สามารถแก้ได้ ก็ต้องไปสู่การแก้เป็นรายมาตรา ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคอื่นที่ได้มีการพูดคุยกันก็เห็นด้วยถึงมาตรา 272 ในการที่จะปิดสวิตช์ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะมาตรานี้เป็นการขัดต่อหลักประชาธิปไตย เนื่องจาก ส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อีกประเด็นคือบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย เห็นด้วย คือ ให้เหมือนปี 40 โดยมี ส.ส.เขต 400 ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 นี่เป็นหลักการเบื้องต้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงเกิน100 เสียงในสภา ทำให้สามารถยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ “หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายเราก็จะมีการประชุมในพรรคเพื่อไทยก่อน และค่อยประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งก็ต้องยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด เพราะเป็น สัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ทางรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่าต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีวิกฤติในหลายด้านด้วยกัน”