เมื่อวันที่ 16 เม.ย.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค.ว่านี่คือชั่วโมงแห่งความสิ้นหวัง ที่จับความได้เพียงว่าการวิพากษ์วิจารณ์คือบ่อนทำลาย ตลอดเวลามีแต่การยกตนข่มท่าน มองหาแสงสว่างที่ประชาชนต้องการและวิสัยทัศน์ที่ประชาชนอยากเห็นอย่างมีภาวะผู้นำไม่ได้เลย ท่านยังคงเพ่งโทษการระบาดแต่ละครั้งไปที่ความประมาทและวินัยหย่อนยานของประชาชนเหมือนเดิม มีกระทั่งกล่าวหาอย่างหน้าด้านว่าการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนคืออันตรายอันดับหนึ่ง ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือยังไม่เคยมีการระบาดที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมเลย มีแต่การที่ผู้ชุมนุมจำนวนมากถูกจับกุมคุมตัวด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรค ขณะที่การระบาดใหญ่ในแต่ละระลอก ล้วนมาจากความหย่อนยานหรือที่ท่านบอกว่าการ์ดตกของภาครัฐในการควบคุมธุรกิจสีเทาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคลัสเตอร์สนามมวยลุมพินี คลัสเตอร์บ่อน คลัสเตอร์ค้าแรงงานต่างชาติ หรือกระทั่งล่าสุดคือคลัสเตอร์ทองหล่อ ที่จนถึงวันนี้รัฐมนตรีของท่านเองก็ยังให้ไทม์ไลน์ละเอียดผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะที่ขู่ให้ประชาชนใช้ไม่ได้เลย แค่เริ่มด้วยทิศทางแบบนี้คงต้องบอกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ท่านได้บทเรียนอะไร แทนที่จะหาทางออกจากโรคระบาดด้วยการเปิดใจฟังคำเตือนและคำแนะนำจากทุกฝ่าย กลับใช้แต่แนวทางโฉดเขลากล่าวโทษ และเป็นการอาศัยสถานการณ์โรคระบาดฉกฉวยทำลายคนเห็นต่างด้วยกรอบความมั่นคงอยู่เช่นเดิม
ถ้าท่านยอมเปิดใจบ้าง ประชาชนก็คงมองเห็นความหวังที่ปลายอุโมงค์ได้มากกว่านี้ ขอถามหน่อยว่าข้อสังเกตของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อแผนวัคซีนของท่าน ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้มีอะไรผิดจากที่คาดการณ์บ้าง แต่สุดท้ายคนพูดก็โดนคดี 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากคนของท่าน หรือการที่ท่านยังจับประเด็นของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ได้ ก็ไปกล่าวหาว่าการที่ ส.ส.ฝ่ายค้านไปฉีดวัคซีนวันนี้ ทั้งที่ได้วิจารณ์คุณภาพวัคซีนมาตลอดนั้น เพราะต้องการบ่อนทำลายท่าน ท่านเข้าใจผิดประเด็นอย่างมาก หากท่านเป็นคนรู้จักฟังสักนิดก็จะเข้าใจว่า สิ่งที่พวกเราพยายามพร่ำบอกมาตลอดคือ ในสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่ปีก่อนควรมีวัคซีนที่หลากหลาย ไม่เอาความหวังทั้งหมดไปใส่ไว้ที่วัคซีนไม่กี่ตัว เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น วัคซีนอาจไม่ได้ฉีดกันเลย เศรษฐกิจก็จะยิ่งฟื้นได้ช้า แล้วอัตรการฉีดวัคซีนของท่านก็ช้ามาก ช้ากว่าเพื่อนบ้านด้วย
“แต่การมีวัคซีนหลายตัวให้ใช้จะมีผลดีคือ อย่างมีข่าวออกมาเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนหรือมีผลข้างเคียงแม้เพียงนิดเดียว เขาก็มีทางเลือกฉีดตัวอื่นต่อได้ทันทีเช่น กรณีวัคซีนของจอห์นสันฯ ในสหรัฐ ซึ่งเอาเข้าจริงพบเคสที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก แต่เขาเอาชัวร์หยุดใช้ได้เลยเพราะมีตัวเลือก ส่วนสำหรับเราเมื่อไม่มีทางเลือก แล้วนายกฯ เอย รัฐมนตรีเอยยังกล้าๆ กลัวๆที่จะฉีด ก็ต้องเป็นหน้าที่ ส.ส.ที่จะต้องสร้างความมั่นใจในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน เพราะถึงไม่มีทางเลือกมาก แต่การฉีดวัคซีนย่อมมีผลดีกว่าไม่ฉีดแน่นอน ซึ่งเมื่อประชาชนพร้อมจะฉีดแล้วก็อยากให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมและเร่งฉีดให้เร็วที่สุดด้วย"
นายณัฐชา กล่าวว่า รัฐบาลยังคงทำตัวปัดความรับผิดชอบ เพื่อเลี่ยงการเยียวยาจากการใช้มาตรการควบคุมโรคเช่นเดิม เพราะถึงแม้จะพยายามย้ำว่าไม่มีเคอร์ฟิว ไม่มีล็อกดาวน์ แต่การให้หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกอย่างหลัง 23.00 น. แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อก็เสมือนการเคอร์ฟิวไปแล้ว คงต้องถามว่าการที่ต้องหยุดกิจการเช่นนี้จะมีมาตรการเยียวยาตามมาด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ การโยนอำนาจเสมือนเคอร์ฟิว เช่น การห้ามเคลื่อนย้ายหรือเดินทางไปให้จังหวัดต่างๆ ตัดสินใจเอง ก็เหมือนความผิดพลาดของมาตรการในครั้งก่อน เพราะตอนนั้นบางจังหวัดก็ใช้ยาเบาเกินไป บางจังหวัดก็ใช้ยาแรงเกินไป จนส่งผลกระทบต่อปากท้องประชาชน แต่เมื่อเป็นมาตรการของจังหวัด รัฐก็ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการช่วยเหลือหรือเยียวยาใดๆ แนวทางที่ออกมาในวันนี้จึงเหมือนคนอยากใช้กระบองแต่ก็ไม่กล้าใช้ เพราะบทเรียนเดียวที่รัฐบาลรู้ดี แต่ไม่กล้ายอมรับคือ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กำปั้นเหล็กที่ใช้ไปเพื่อแลกกับได้ชื่อว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์นั้น ได้สร้างความพังทลายให้กับเศรษฐกิจของประเทศและปากท้องประชาชนอย่างมหาศาล