พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอเรียนประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยและการกระทำความผิดที่อาจเกิดขึ้นในช่วง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการ Work From Home ทำให้พี่น้องประชาชนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้นเพื่อป้องกันและลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อ จากการแพร่ระบาดดังกล่าว ส่งผลให้วิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนเปลี่ยนไป และมีการทำกิจกรรมต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีเหล่ามิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ในการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีการส่ง SMS ว่าได้รับสิทธิ์ในการกู้เงินออนไลน์ หรือกรณีที่มีการปลอมเป็นธนาคารหลอกให้ทำธุรกรรมทางการเงินที่เคยได้เกิดขึ้นมาแล้วก่อนนี้ โดยรูปแบบของมิจฉาชีพคือ ส่งลิงก์ที่เเนบไปกับข้อความ หลอกว่าท่านได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ได้รับการยกหนี้สิน ได้รับเงิน ได้สิทธิกู้เงิน และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะถูกหลอกเอาทรัพย์สินไป, กรณีการถูกระรานทางไซเบอร์ หรือ Cyberbullying ที่มีผู้เสียหายหลายรายรวมถึงเหล่าดารานักแสดงอีกด้วย ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำทางจิตใจของผู้ถูกกระทำเข้าไปอีก หรือกรณีที่มีการสั่งซื้อเซิร์ฟสเก็ต และได้มีการชำระเงินมัดจำค่าสินค้าไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการจัดส่งสินค้าจริง ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นต้น การกระทำลักษณะดังกล่าวนั้น ล้วนเป็นความผิดทางกฎหมาย อย่างการระรานทางไซเบอร์(Cyberbullying) อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง, การหลอกลวงต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบของการฉ้อโกงต่างๆ นอกจากนี้ยังได้เร่งสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อน โดยการเร่งทำการสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และตัดโอกาสในการกระทำความผิดต่อไป รองโฆษก ตร. และโฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่าขอให้พี่น้องประชาชนใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีสติ, มีความรอบคอบทุกครั้งในการตัดสินใจต่างๆ ทั้งการแสดงความคิดเห็น, การตัดสินใจโอนเงิน หรือการเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องใดบนสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง