“วัชระ”เชื่อมือ”เพื่อนตู่” ปลุกม็อบ”ตู่ชนตู่” ขึ้น หลังได้แนวร่วม”อดุลย์ เขียวบริบูรณ์”หนุนหนัง ระบุสถานการณ์เบื่อ”ลุงตู่”สุกงอมหรือไม่ ต้องดูยุทธการเปิดไพ่ทีละใบ ได้หลายกลุ่มร่วมด้วยหลังสงกรานต์หรือไม่ คาดรบ.จ่อใช้มาตรการกม.จัดเก็บแกนนำรายหัว สลายกำลังภายในตามรอยกปปส. เมื่อวันที่ 16 เม.ย.นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์การเออกมาเคลื่อนไหวม็อบ4-4-4ภายใต้การนำของนายจตุพร  พรหมพันธุ์  ประธานกลุ่มนปช. ที่มีเป้าหมายจะขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ตนมองว่าแม้นายจตุพรว่าจะถูกหลายฝ่ายดิสเครดิตทั่วสารทิศ  แต่จะเห็นว่านายจตุพรไปตามคำเชิญของนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกลุ่มญาติฯซึ่งมีนักต่อสู้เดือนตุลา กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน และเครือข่ายคนทุกสีจึงย่อมมีน้ำหนักในการเคลื่อนไหว อีกทั้งนายจตุพรยังเป็นผู้ที่เจนจัดในการปลุกม็อบ นำม็อบและจบม็อบตั้งแต่ยุคพฤษภาทมิฬจนถึงยุคคนเสื้อแดง ยุทธปัจจัยในการนำและเคลื่อนม็อบจึงมีประสบการณ์อย่างโชกโชน เรียกว่าแค่หลับตาก็รู้ว่าจะเดินหมากอย่างไร  ดังนั้นยุทธการณ์"ตู่ชนตู่" จึงประมาทไม่ได้เป็นอันขาด นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนบรรดาคนเสื้อแดงที่กลับใจไปอยู่กับรัฐบาลหากนับตามฝีมือแล้วยังห่างชั้นนายจตุพรอยู่มาก แต่ก็เข้าตำราโบราณว่าไก่เห็นตีนงู  งูเห็นนมไก่ ภาพพจน์ชายชุดดำและวลีเผาบ้านเผาเมืองอาจคาใจคนกรุงเทพฯจำนวนมาก  แต่การพุ่งเป้าล้มรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว ย่อมทำให้ได้แนวร่วมมากขึ้น จึงต้องดูจังหวะการเคลื่อนไหวที่อาจมีการประสานให้ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีการนำแบบรวมหมู่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตหรือจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจขึ้นมาแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกปปส.หรือไม่ “สถานการณ์ความเบื่อหน่ายพล.อ.ประยุทธ์กำลังเข้าสู่ช่วงสุกงอมหรือไม่ ให้ดูที่ยุทธการเปิดไพ่ทีละใบ ว่ามีผู้นำมวลชน ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา นักวิชาการ ชาวนาชาวไร่ ผู้นำเกษตรกร พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้นำแรงงานหรือกลุ่มพลังกดดันทางสังคมได้ทะยอยเปิดตัวเข้าร่วมอย่างเป็นระบบหรือไม่  มีมวลชนเข้าร่วมหลังเทศกาลสงกรานต์แบบไหลมาเทมาหรือไม่ ถึงจุดนั้นรัฐบาลก็ต้องตั้งรับให้ดี ผมคิดว่ารัฐบาลคงใช้กฎหมายเป็นตัวหลักในการจัดการกับม็อบหรือผู้นำม็อบ คงจะมีการตรวจสอบเป็นรายบุคคลว่าใครมีคดีความอยู่ในชั้นไหนหรือหน่วยงานใดบ้าง แล้วใช้กำลังภายในจัดการทีละคนทีละกลุ่มเพื่อตัดกำลัง เหมือนที่กลุ่มกปปส.เคยโดนมาแล้ว” นายวัชระมองด้วยว่าม็อบ"ตู่ชนตู่" จะพัฒนาสู่ม็อบ"สามัคคีคนไม่เอาลุงตู่"ในที่สุด แต่จุดจบจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามอย่ากระพริบตา เพราะคู่ชกครั้งนี้สมศักดิ์ศรี  ไม่ใช่ม็อบเด็กๆคิกขุอาโนเนะที่ไม่รู้จักว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เพราะ เมื่อสภาไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา การอภิปรายนอกสภาและมีเป้าหมายเพื่อขับไล่รัฐบาลจึงเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรของการเมืองไทย ซึ่งอาจจบลงแบบพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อหรือลาออก หรือยุบสภา หรือรัฐประหาร หรือม็อบถูกรัฐบาลกวาดล้างพ่ายแพ้ไปก็เป็นได้