จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถทัวร์โดยสารของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด หมายเลขข้างรถ 22-34 หมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี เหตุเกิดที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนก่น เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 และมีผู้บาดเจ็บ 12 ราย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 เม.ย.2564 เวลา 09.00 น.นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ขนส่งจังหวัดได้เรียกทางบริษัท 407 พัฒนา จำกัดมาชี้แจงข้อเท็จจริงและบันทึกปากคำตามขั้นตอนของการเดินรถโดยสาร โดยเจ้าพนักงานขนส่งได้แจ้ง 3 ข้อหากับทางบริษัทฯ ประกอบด้วย ใช้รถทำการขนส่งนอกเส้นทาง ,ใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงฯ และไม่นำรถเข้าสถานีฯ โดยได้ดำเนินการลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท
"จากการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิศวกรรมยานยนต์ของกรมการขนส่งทางบกได้ตรวจสอบรถอย่างละเอียดและสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว คาดว่าเกิดจากผู้ขับขี่รถไม่ได้มีการตรวจสภาพเบรกให้ดีก่อนนำมาใช้ โดยได้ตรวจพบลมในระบบเบรกรั่วจนทำให้เกิดเบรกติด เมื่อเบรกติดเป็นเวลานานก็จะเกิดความร้อนสูงสะสมขึ้นจนทำให้ยางระเบิดฉีกขาดออก แรงระเบิดของยางส่งผลให้ซุ้มล้อฉีกขาด และในตำแหน่งดังกล่าว มีการติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวี เอาไว้ใกล้กับห้องเครื่องยนต์โดยมีหัววาล์วอยู่ในตำแหน่งเหนือล้อ คาดว่าชิ้นส่วนของยางที่ระเบิดทำให้ท่อส่งก๊าซ ขาด เกิดก๊าซรั่วไหล และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว"นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขนส่งจังหวัดขอนแก่นยังได้รายงานอีกว่า ขณะที่การตรวจสอบระบบก๊าซเอ็นจีวี ของรถทัวร์คันดังกล่าว พบว่า ทั้ง 11 ถังมีการติดตั้งอย่างถูกต้องและผ่านการตรวจสอบระบบก๊าซ ทั้งหมดได้มาตรฐาน อีกทั้งบริษัทฯจะต้องนำรถทัวร์ที่ติดตั้งแก๊สที่มีอยู่กว่า 20 คัน ไปทำการตรวจสอบระบบเบรกความหนาของผ้าเบรก และระบบการติดตั้งถังก๊าซ อีกครั้ง ที่ขนส่งจังหวัดอุดรธานี โดยขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ทยอยนำรถเข้าตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีสภาพไม่พร้อมใช้งานก็จะมีการสั่งให้หยุดใช้รถคันดังกล่าวและดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 เม.ย.2564 เวลา 09.00 น.นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ขนส่งจังหวัดได้เรียกทางบริษัท 407 พัฒนา จำกัดมาชี้แจงข้อเท็จจริงและบันทึกปากคำตามขั้นตอนของการเดินรถโดยสาร โดยเจ้าพนักงานขนส่งได้แจ้ง 3 ข้อหากับทางบริษัทฯ ประกอบด้วย ใช้รถทำการขนส่งนอกเส้นทาง ,ใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงฯ และไม่นำรถเข้าสถานีฯ โดยได้ดำเนินการลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท
"จากการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิศวกรรมยานยนต์ของกรมการขนส่งทางบกได้ตรวจสอบรถอย่างละเอียดและสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว คาดว่าเกิดจากผู้ขับขี่รถไม่ได้มีการตรวจสภาพเบรกให้ดีก่อนนำมาใช้ โดยได้ตรวจพบลมในระบบเบรกรั่วจนทำให้เกิดเบรกติด เมื่อเบรกติดเป็นเวลานานก็จะเกิดความร้อนสูงสะสมขึ้นจนทำให้ยางระเบิดฉีกขาดออก แรงระเบิดของยางส่งผลให้ซุ้มล้อฉีกขาด และในตำแหน่งดังกล่าว มีการติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวี เอาไว้ใกล้กับห้องเครื่องยนต์โดยมีหัววาล์วอยู่ในตำแหน่งเหนือล้อ คาดว่าชิ้นส่วนของยางที่ระเบิดทำให้ท่อส่งก๊าซ ขาด เกิดก๊าซรั่วไหล และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว"นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขนส่งจังหวัดขอนแก่นยังได้รายงานอีกว่า ขณะที่การตรวจสอบระบบก๊าซเอ็นจีวี ของรถทัวร์คันดังกล่าว พบว่า ทั้ง 11 ถังมีการติดตั้งอย่างถูกต้องและผ่านการตรวจสอบระบบก๊าซ ทั้งหมดได้มาตรฐาน อีกทั้งบริษัทฯจะต้องนำรถทัวร์ที่ติดตั้งแก๊สที่มีอยู่กว่า 20 คัน ไปทำการตรวจสอบระบบเบรกความหนาของผ้าเบรก และระบบการติดตั้งถังก๊าซ อีกครั้ง ที่ขนส่งจังหวัดอุดรธานี โดยขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ทยอยนำรถเข้าตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีสภาพไม่พร้อมใช้งานก็จะมีการสั่งให้หยุดใช้รถคันดังกล่าวและดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก