ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.ท.เจรวัตร จรจบ พนักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า มีรถเก๋งชนราวเหล็กกั้นขอบทางของทางราชการได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนสายเอเซียฝั่งขาล่อง หมู่ 6 บ้านคลองแงะ ต.ถ้ำพรรณรา หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.นิพล จักรธรรมธร สายตรวจรถยนต์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งถ้ำพรรณรา มูลนิธิประชาร่วมใจถ้ำพรรณรา
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กจ 2636 สงขลา สภาพพังยับ ล้อหน้าซ้ายหลุดแยกออกจากตัวรถ กระจกหน้าแตกร้าว ที่เกิดเหตุไม่พบคนขับเจ้าหน้าที่สังเกตที่เบาะหลังรถพบกระสอบปุ๋ยสีขาววางอยู่จำนวน 4 ถุง เมื่อแกะออกดูเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าภายในกระสอบเป็นยาบ้าจำนวนมาก
ต่อมา พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางมาพร้อมกับ พ.ต.อ.หญิง อมรรัตน์ พลเกษตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 พร้อมกำลัง เข้าทำการเก็บหลักฐานดีเอ็นเอที่คาดว่าจะอยู่ตามจุดต่างๆของห่อยาบ้าทั้งหมดที่พบ และช่วยกันแกะยาบ้าทั้งหมดจำนวน 4 ถุงปุ๋ยออกมานับพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 990,000 เม็ด กระสอบละ 25 มัดใหญ่ แต่ละมัดจะมีจำนวน 10,000 เม็ด รวม 1 กระสอบจะมียาบ้าจำนวน 250,000 เม็ด ส่วนกระสอบที่ 4 จะมียาบ้าอยู่ทั้งหมด 24 มัดใหญ่ มียาบ้าทั้งหมด 240,000 เม็ด รวมยาบ้าที่พบในครั้งนี้ 990,000 เม็ดมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ความว่าหลังจากรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุจึงรีบเข้าตรวจสอบ ได้พบกับคนขับผู้ชายอายุ ประมาณ 50 ปี ที่กำลังยืนอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ และมีผู้หญิงรูปร่างผอมบางยืนอยู่ข้างรถ คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูกกัน จึงได้เข้าไปสอบถามว่ามาจากไหนจะไปไหน จะให้ช่วยอะไรบ้างซึ่งผู้ชายได้พูดตอบมาว่ามาจากกรุงเทพฯ กำลังจะกลับบ้านที่ จ.สงขลา โดยมีผู้หญิงกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพของสามคนพ่อแม่ลูกไว้ได้ ซึ่งหลายเป็นหลักฐานสำคัญของเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่ามีรถเก๋งสีขาวมารับทั้ง 3 คนหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนขับรถเก๋งแล้วคืนายมงคล สังข์แจ้ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ซอย 5 ถนนไทรบุรี ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เนื่องจากภาพที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถ่ายส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ซึ่งตรงกับภาพทะเบียนราษฏ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล เตรียมออกหมายจับมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
ต่อมา พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางมาพร้อมกับ พ.ต.อ.หญิง อมรรัตน์ พลเกษตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 พร้อมกำลัง เข้าทำการเก็บหลักฐานดีเอ็นเอที่คาดว่าจะอยู่ตามจุดต่างๆของห่อยาบ้าทั้งหมดที่พบ และช่วยกันแกะยาบ้าทั้งหมดจำนวน 4 ถุงปุ๋ยออกมานับพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 990,000 เม็ด กระสอบละ 25 มัดใหญ่ แต่ละมัดจะมีจำนวน 10,000 เม็ด รวม 1 กระสอบจะมียาบ้าจำนวน 250,000 เม็ด ส่วนกระสอบที่ 4 จะมียาบ้าอยู่ทั้งหมด 24 มัดใหญ่ มียาบ้าทั้งหมด 240,000 เม็ด รวมยาบ้าที่พบในครั้งนี้ 990,000 เม็ดมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ความว่าหลังจากรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุจึงรีบเข้าตรวจสอบ ได้พบกับคนขับผู้ชายอายุ ประมาณ 50 ปี ที่กำลังยืนอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ และมีผู้หญิงรูปร่างผอมบางยืนอยู่ข้างรถ คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูกกัน จึงได้เข้าไปสอบถามว่ามาจากไหนจะไปไหน จะให้ช่วยอะไรบ้างซึ่งผู้ชายได้พูดตอบมาว่ามาจากกรุงเทพฯ กำลังจะกลับบ้านที่ จ.สงขลา โดยมีผู้หญิงกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพของสามคนพ่อแม่ลูกไว้ได้ ซึ่งหลายเป็นหลักฐานสำคัญของเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่ามีรถเก๋งสีขาวมารับทั้ง 3 คนหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนขับรถเก๋งแล้วคืนายมงคล สังข์แจ้ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ซอย 5 ถนนไทรบุรี ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เนื่องจากภาพที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถ่ายส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ซึ่งตรงกับภาพทะเบียนราษฏ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล เตรียมออกหมายจับมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว