เพราะคนเรามีเส้นทางความฝันที่แตกต่างกัน บางคนถึงเส้นทางความฝันได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้ เลิกเรียน ต้องขายของเลี้ยงชีพ ปิดเทอมทำงานหารายได้ อะไรที่เป็นแรงบันดาล ให้เขาสู้ชีวิตขนาดนี้ ไปทำความรู้จักกับ นายมานพ อมตะภิรมย์ (น้องเบียร์) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนผดุงปัญญา อ.เมือง จ.ตาก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตาก นายมานพ อมตะภิรมย์ (น้องเบียร์) เล่าว่า เขาเป็นเด็กชาติพันธุ์ คือ ปกาเกอะญอ อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านห้วยระพริ้ง ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ในเทือกเขา ไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงแผงโซล่าเซลล์ที่พอช่วยให้แสงสว่างในช่วงหัวค่ำเท่านั้น ส่วนพ่อกับแม่นั้น เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเล็กๆ เลยต้องอาศัยอยู่กับน้าสาว ซึ่งน้าเองก็มีลูก 3 คน ทำให้น้องเบียร์เกรงใจที่จะขอเงินจากที่บ้าน เพิ่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เลยเริ่มรับจ้างทำงานตั้งแต่ช่วงอายุ 13 ปี ซึ่งตอนนั้น น้องเบียร์เรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ทางโรงเรียนได้สนับสนุนให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียน และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ น้องเบียร์ได้รับทุนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ทุนศึกษาต่อจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ในส่วนของน้องเบียร์เอง เล่าว่า ทุนที่ได้มานี้ จะใช้ในการเบิกค่าเทอม ค่าเล่าเรียน ซึ่งน้องเบียร์จะใช้เงินจากทุนนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด เบิกตามความจำเป็นเท่านั้น เพราะรู้ดีว่า เมื่อศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ค่าเล่าเรียนจะสูงขึ้นตามไปด้วย ขอใช้เงินจากทุนของพระองค์ท่านให้คุ้มทุกบาททุกสตางค์ที่สุด ช่วงหลังเลิกเรียน น้องเบียร์ จะไปรับนมเปรี้ยวมาขาย ที่สามแยกแม่สอด ได้กำไรโหลละ 20 บาท บางวันขายได้ดี แต่บางวันขายได้น้อย ปะปนกันไป ส่วนเสาร์ อาทิตย์ หรือปิดเทอมจะทำงานเสิร์ฟที่ร้านอาหาร ซึ่งทางร้านก็เลี้ยงอาหารฟรีด้วย และได้ค่าแรงวันละ 300 บาท และถ้าช่วงใกล้สอบ จะจัดตารางอ่านหนังสือ เพื่อไม่ให้เสียการเรียน และน้องเบียร์ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่าในทุกเทอม น้องเบียร์ว่า การทำงานควบคู่กับการเรียน เป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะวันหนึ่งเราไม่รู้จะเจอกับอะไรบ้าง เราจึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ต้องเก็บประสบการณ์ และทำงานเก็บเงิน และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การเรียน เตรียมตัวให้พร้อมที่สุดถ้าเราเรียนรู้ได้เยอะ เราจะได้เปรียบทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน หน้าที่และวินัย นายสนั่น วงษ์ดี ผู้อำนวยการโรงเรียนผดุงปัญญา กล่าวว่า น้องเบียร์ เป็นเด็กด้อยโอกาส แต่เป็นเด็กเรียนดี และมีความพยายามช่วยเหลือตัวเองเป็นอย่างมาก โดยการหารายได้ระหว่างเรียน ซึ่งน้องเบียร์ที่รักของครู อาจารย์ จึงได้รับความเมตตาจากครูโดยตลอด เช่นอะไรที่ช่วยเหลือน้องเบียร์ได้ จะช่วยเหลือตลอด และทางโรงเรียนก็ได้สนับสนุนการเรียน กิจกรรมต่างๆ เช่น สภานักเรียน กิจกรรมจิตอาสา ซึ่งน้องเบียร์ทำได้ดี ความฝันของน้องเบียร์ คือ อยากเป็นครูคืนถิ่น เพราะเด็กๆในหมู่บ้านจะไม่ต้องเดินทางไกลมาเรียนในเมือง อีกอย่างคือ เด็กๆจะพูดได้แต่ภาษากะหรี่ยง ถ้าได้ครูที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย ภาษากะเหรี่ยง ก็จะทำให้เด็กๆในหมู่บ้านเรียนเข้าใจมากขึ้น และเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทย ด้วยการให้การศึกษากับเยาวชนรุ่นหลัง ชมคลิป https://youtu.be/UVYfCfj-LmQ