ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวในรายการ โหนกระแส ที่มีหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คาดว่าตัวเลขจะมีผู้ติดเชื้อหลักหมื่นต่อวัน กับการระบาดระลอกเดือนเมษายน 2564 นี้วันเดียวน่าจะขึ้นไปประมาณ 400-500 ราย จนไปแตะที่ 800-900 ราย อยู่ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นจะขึ้นหลัก 1,300-1,500 ราย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดมาจากการคำนวณ จากแบบจำลองการระบาดวิทยา และโมเดลต่างๆ พบว่าถ้าไม่มีมาตรการอะไรเลย ภายใน 1 เดือน ผู้ติดเชื้อต่อวันจะขึ้นไปหลักสองหมื่นแน่นอน   ทั้งนี้การระบาดล่าสุดไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา อย่างที่ สมุทรสาคร ส่วนใหญ่ จะเป็นแรงงานต่างด้าวในโรงงาน ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนมากมาย แต่การระบาดเดือนเมษายน 2564 ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว อายุเฉลี่ย 20-29 มากที่สุด เป็นวัยทำงาน เดินทางทั่วประเทศ การกระจายจะค่อนข้างเร็วจากจุดสถานบันเทิงไม่กี่แห่ง ตอนนี้กระจายไปทั่วประเทศ มีสองสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดไม่มากนัก แต่คราวนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษที่เรียกว่า B117 โดยความสามารถของมัน คือกระจายเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ข้อดีคือความรุนแรงไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น จึงค่อยสบายใจในส่วนนี้ ความสามารถวัคซีนในการป้องกันก็ไม่มีปัญหา ฉะนั้นถ้าดูตามแบบจำลองคณิตศาสตร์และความสามารถของเชื้อ ผมเชื่อว่าตัวเลข 2 หมื่นกว่าต่อวันเป็นไปได้ ถ้าเราไม่ร่วมมือกันในตอนนี้ หากไม่มีการป้องกัน สถานบันเทิงก็ยังเปิด ยังมีการชนเหล้า อันนี้เกิดแน่ทั่วประเทศ   โดยนพ.โอภาส ยังกล่าวถึง ระยะเวลาที่คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนเต็มเม็ดเต็มหน่วย น่าจะเป็นเดือนมิถุนายน เพราะตอนนี้สั่งมาแล้ว 61 ล้านโด๊ส ของแอสตราเซเนกา ซึ่งสถานการณ์วัคซีนทั่วโลกเวลานี้ต่างแย่งกันซื้อ ของมีน้อย ความต้องการเยอกว่าะ อีกทั้งวัคซีนไม่ใช่สินค้าที่หาซื้อได้ในท้องตลาด หลายประเทศไม่ให้ส่งออกแล้ว ตอนนี้วิจัยยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ แต่ต้องเอามาใช้ก่อน จุดเป็นปัญหาเรื่องวัคซีนเป็นจุดไหน บ้านเราสังเกตดู จุฬาฯ มหิดล วิจัยวัคซีนได้ แต่สิ่งที่ขาดคือโรงงาน ในบ้านเราปัญหาคือโรงงานวัคซีน มีน้อยมาก ทำให้การวิจัยต่อยอดเป็นไปอย่างยากลำบาก ฉะนั้นในการจัดการครั้งนี้ หาวัคซีนที่มีปริมาณเพียงพอกับคนไทย ส่งมอบให้เราครบกำหนด ไม่ตกหล่น และควรเป็นราคาที่ยอมรับได้ ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งโจทย์ ที่ต้องนำไปคิด ก็คือ ทำยังไงให้เรามีโรงงานผลิตเองในประเทศไทย ให้มีความมั่นคงต่อไปในอนาคต วัคซีนหายากกว่าหน้ากากมาก ทำยังไงให้โรงงานอยู่ในประเทศไทย โชคดีที่แอสตราเซเนกาตั้งฐานผลิตที่ไทย ทำให้เราสั่งซื้อวัคซีนได้ 150 บาท ถูกที่สุดในโลก สองโรงงานอยู่ในประเทศไทย จึงไม่มีปัญหาว่าผลิตแล้วคนไทยไม่ได้ ได้แน่ๆ รัฐบาลก็หาวัคซีนให้คนไทยทุกคนโดยไม่คิดมูลค่า กำลังผลิตที่เราประมาณไว้เบื้องต้น 61 ล้านโด๊ส แผนการผลิตเราจริงๆ ที่จะกระจายเดือนกว่าๆ หรือช่วงต้นเดือนมิถุนายน ก็น่าจะมีวัคซีนให้คนไทยได้อย่างเพียงพอ