เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 15 เม.ย. ร.ต.ท.ปาณัสม์ กลิ่นขจร รอง สว.(สอบสวน)สน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ เลขที่ 56/3 และ 56/4 ภายในซอยวงเวียน 22 กรกฎา 1 ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร รถน้ำสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิ จำนวน 5 คัน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ความสูง 3 ชั้น ปลูกติดกัน 2 คูหา พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้นที่ 3 ก่อนลุกลามไปยังชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดน้ำนานกว่า 20 นาที เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นพบรอยร้าวที่ชั้น 3 จึงปิดกั้นพื้นที่พร้อมให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างอาคารดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย
สอบถาม นายวรกร ขวัญข้าว ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนออกไปข้างนอก แต่พอกลับมาพบว่ามีควันพวยพุ่งออกมาที่หน้าต่างชั้น 3 ของตึก จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่และกู้ภัย สำหรับตึกดังกล่าวเป็นตึกแถวที่เจ้าของปล่อยให้เช่าพักอาศัย ซึ่งคนที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และมักจะมีการนั่งดื่มกินกันเป็นประจำ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในย่านใกล้ที่เกิดเหตุก็เพิ่งเกิดไฟไหม้เช่นเดียวกัน เพราะในย่านนี้มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างแออัด
ด้าน ร.ต.ท.ปาณัสม์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวเจ้าของ พบเพียงชาวกัมพูชาหลายคนที่เป็นผู้เช่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เช่าอยู่ที่ชั้น 1 จากนั้น ได้เกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้นที่ 3 ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงพากันหนีออกมาโดยไม่ทันได้เก็บข้าวของ หลังจากนี้ ตนจะไปสอบปากคำผู้เช่าที่โรงพัก รวมถึง ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประเมินความปลอดภัยของอาคาร ก่อนสรุปหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป.
สอบถาม นายวรกร ขวัญข้าว ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนออกไปข้างนอก แต่พอกลับมาพบว่ามีควันพวยพุ่งออกมาที่หน้าต่างชั้น 3 ของตึก จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่และกู้ภัย สำหรับตึกดังกล่าวเป็นตึกแถวที่เจ้าของปล่อยให้เช่าพักอาศัย ซึ่งคนที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และมักจะมีการนั่งดื่มกินกันเป็นประจำ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในย่านใกล้ที่เกิดเหตุก็เพิ่งเกิดไฟไหม้เช่นเดียวกัน เพราะในย่านนี้มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างแออัด
ด้าน ร.ต.ท.ปาณัสม์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวเจ้าของ พบเพียงชาวกัมพูชาหลายคนที่เป็นผู้เช่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เช่าอยู่ที่ชั้น 1 จากนั้น ได้เกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้นที่ 3 ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงพากันหนีออกมาโดยไม่ทันได้เก็บข้าวของ หลังจากนี้ ตนจะไปสอบปากคำผู้เช่าที่โรงพัก รวมถึง ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประเมินความปลอดภัยของอาคาร ก่อนสรุปหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป.