วันที่ 15 เม.ย.64 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เป็นรายมาตราของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีบางฝ่ายมองว่าเป็นการแก้ไขที่ไม่ตรงจุด ว่า เป็นความเห็นของเพื่อนสมาชิกรัฐสภาซึ่งก็แล้วแต่คนมอง แต่สำหรับพรรคก็ถูกกล่าวหาตลอดว่าไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเสนอประเด็นที่คาดว่าจะได้รับความยอมรับ ความเห็นพ้องต้องกันของสมาชิกรัฐสภาที่มีส่วนสำคัญในการออกเสียงทั้งส.ว.และส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
โดยทางพรรคได้เสนอไปทั้งหมด 5 ประเด็น 13 มาตรา ส่วนใครจะได้ประโยชน์มากหรือน้อยก็ตามก็แล้วแต่คนที่มีมีความคิดเห็นกัน หรือการที่ใครจะเสียผลประโยชน์ก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นความเห็นได้ทั้งนั้น แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐจริงใจและจริงจังต้องการที่จะผลักดันให้เกิดขึ้น ฉะนั้นจึงอยากจะให้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่พรรคพลังประชารัฐเสนอให้เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่จะเกิดขึ้น และต่อมาจะมีร่างแกก้ไขฉบับที่ 2 หรือ 3 ก็อยู่ที่สมาชิกพรรคต่างๆ ที่จะเสนอเข้าไป
“หากประเด็นไม่มีปัญหา ได้รับการเห็นพ้องกับทุกฝ่าย ผมมั่นใจว่าจะต้องมีฉบับที่ 2 ที่ 3 แล 4 ตามมา จากการสอบถามทางส.ว.เขาจะไม่เห็นด้วยหากญัตติเสนอเข้าไปไปลดอำนาจของเขาหรือไปเกี่ยวข้องกับทางส.ว.โดยตรง เขาก็มีสิทธิที่จะไม่เห็นด้วย ซึ่งหากเขาไม่เห็นด้วย รัฐธรรมนูญในญัตติดังกล่าวไม่ผ่านก็เป็นสิทธิของส.ว.
แต่ทั้งนี้ก็ยังเชื่ออยู่ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามเท่าที่ดูก็เห็นสมาชิกพรรคต่างๆ ก็คงจะเสนอญัตติที่จะได้รับการเห็นพ้องต้องกันหลายญัตติในรัฐสภา ซึ่งเป็นแนวเดียวกันกับของพรรคพลังประชารัฐ ผมมั่นใจและญัตติของพรรคพลังประชารัฐ ผมก็อยากจะเห็นว่าเป็นญัตติที่หนึ่งที่ผ่านการเห็นชอบ และตามมาด้วยญัตติที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ก็ว่ากันไป” นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่าในกรณีที่ฝ่ายค้านจะเสนอให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะสามารถไปรวมกับญัตติของพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า หากมีเฉพาะประเด็นบัตร 2 ใบ โดยไม่มีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับที่มาของนายกรัฐมนตรี ดังนั้นหากมีการยื่นแค่บัตร 2 ใบโดยอาจจะมีวิธีการเขียนหรือมีวิธีคำนวณอะไรที่ไม่เหมือนกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ถือว่ามีหลักการเดียวกัน ในส่วนตัวตนในฐานะที่เป็นฝ่ายกฎหมายคิดว่าพรรคพลังประชารัฐก็น่าจะสนับสนุนญัตติดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นหลักการเดียวกัน เว้นแต่ว่าจะมีการเสนอระบบเลือกตั้งแต่ในขณะเดียวกันก็พ่วงเรื่องมาตรา 272 ที่จะไปตัดอำนาจของส.ว.ด้วย ซึ่งตนก็คิดว่าไม่น่าจะมีญัตติลักษณะดังกล่าว แม้จะเห็นด้วยกับเรื่องหนึ่งแต่หนึ่งแต่ไม่อีกเรื่องเราไม่เห็นด้วย ก็จะรับเข้ามาไม่ได้เพราะจะขัดหลักการ 5 ประเด็น 13 มาตราของพรรคพลังประชารัฐ
“แต่หากมีแค่ประเด็นแค่บัตรเลือกตั้งเรื่องเดียว เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐก็จะสนับสนุน หรืออย่างเชื่อที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเสนอเรื่องสิทธิ เสรีภาพเพิ่มก็น่าจะมาพิจารณาได้เป็นแนวทางเดียวกัน” นายไพบูลย์ กล่าว