“วิษณุ” รับ ห่วงโควิดระบาดรอบนี้ เผย “แพทย์-สธ.” หนุนใช้ยาแรงสกัดโควิด คาดบางจังหวัดอาจประกาศเคอร์ฟิว แต่ขอรอที่ประชุม ศบค.เคาะพรุ่งนี้  เมื่อวันที่ 15 เม.ย.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 สามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ ว่า ได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันคน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยใช้มาแล้ว เพราะไม่ใช่แค่การประกาศใช้กฎหมายหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวแต่มีการออกข้อกำหนด สั่งห้าม เพิ่มเติมด้วย ซึ่งก็ต้องรอผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ เมื่อถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องประกาศเคอร์ฟิว นายวิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่บางจังหวัดจะประกาศเคอร์ฟิว แต่ส่วนตัวยังไม่กล้าที่จะเปิดเผย คงต้องรอที่ประชุม ศบค.ก่อนว่าจะมีการเสนอในประเด็นนี้หรือไม่ แต่มองว่ายังไม่เห็นความจำเป็น เพราะการใช้มาตรการยกระดับพื้นที่สีต่างๆ ยังเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ยอมรับว่าแพทย์ และสาธารณสุข รายงานมายังรัฐบาลให้ใช้มาตรการที่เข้มข้น รุนแรง และเด็ดขาด แต่ทางฝ่ายเศรษฐกิจขอประเมินผลกระทบ โดยเฉพาะช่วงหลังสงกรานต์ 1-2 วันนี้ว่าจะมีความสัมพันธ์กับมาตรการที่จะบังคับใช้ใหม่อย่างไร ซึ่งอาจจะออกมาในแนวทางพบกันครึ่งทาง คือ การใช้วิธีเพิ่มสีให้เข้มขึ้น โดยบางพื้นที่อาจจะต้องยกระดับจากพื้นที่สีส้ม เป็นพื้นที่สีแดง เป็นต้น นายวิษณุ ยังกล่าวยอมรับและกังวลกับการระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้ เพราะจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นที่ทองหล่อ มีการเดินทางที่ขยายและกว้างไกลออกไป ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่เชื้อติดในพื้นที่กับผู้ใช้แรงงาน ซึ่งไม่มีการเดินทางที่ขยายออกไป แต่เวลานี้เป็นเรื่องของคนมีเงิน ทำให้มีไทม์ไลน์ในการเดินทางในหลายพื้นที่ ส่วนจะกระทบต่อแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 ก.ค.นี้หรือไม่นั้น ขอให้รอดูการประชุม ศบค.ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตามการระบาดของโควิด-19 จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปิดประชุมสภาฯ ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะพิจารณากฎหมายสำคัญ เพราะสภาพยังต้องเปิดทำงานตามพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสามัญตามปกติ ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยจะมีการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 65 และร่างพระราชบัญญัติประชามติตามลำดับ โดยการพิจารณากฎหมายทุกอย่างยังเดินตามปกติ และยังอยู่ในกรอบเวลา นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาชนต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติอีกครั้ง ซึ่งหากทุกคนร่วมมือเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาออกข้อกำหนดมาบังคับใช้ และขอประชาชนอย่ากังวล หรือไม่มั่นใจกับโรงพยาบาลสนาม เพราะถือเป็นการเตรียมการไว้รองรับในอนาคต ซึ่งหากจำเป็นก็ต้องใช้ เพราะทั่วโลกก็ใช้กันแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนครบกำหนดกักตัว 14 วันในที่ 19  เม.ย.นี้ และจะเริ่มทำงานในวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19  2 ครั้งไม่พบว่าติดเชื้อ ซึ่งทราบว่าคนที่เข้าร่วมประชุมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ก็ไม่มีใครติดเชื้อแต่อย่างใด