จากกรณี นักศึกษา แสดงความไม่พอใจในมาตรการกักตัวห้ามเข้าออกหอพักเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากมีนักศึกษาในหอพักมีติดเชื้อโควิด 10 ราย อีกทั้งยังต่อว่า เจ้าหน้าที่หอพักที่ขังนิสิตไว้ แต่ตัวเองกลับไปเที่ยวสงกรานต์ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดนายชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายพัฒนานิสิต เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีนิสิตหอพักจุฬาฯ ประท้วงมาตรการกักตัวของมหาวิทยาลัย ที่ห้ามการเข้าออกเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากพบนิสิตติดเชื้อโควิด จำนวนหนึ่งนั้น ทางจุฬาฯกำลังทำความเข้าใจกับนิสิตคนดังกล่าว รวมทั้งนิสิตหอพักคนอื่นๆด้วย ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเนื่องจากพบนิสิตหอพักติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 10 ราย ทางมหาวิทยาลัยจึงมีความเป็นห่วงสุขภาพของนิสิต ซึ่งนิสิตที่พักในหอพักค่อนข้างมีความเสี่ยง เนื่องจากการใช้ชีวิตของเด็กหอ แต่ละห้องมีการพักรวมกัน 2-4 คน ใช้ห้องน้ำรวม ทางคณะแพทย์ที่ดูแลสุขภาพของนิสิต มีความเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาด จึงได้ขอความร่วมมือให้นิสิตกักตัวในหอพัก เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันกับการกักตัวของผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ ที่งดการเคลื่อนย้ายไปมา หากนิสิตจะกลับบ้านหรือต่างจังหวัดก็สามารถทำได้ หอพักไม่ใช่คุกอย่างที่กล่าวหา แต่ขณะเดียวกันการกลับบ้านก็ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจจะนำเชื้อกลับบ้านได้ ซึ่งถ้านิสิตต้องการออกไปจริงๆ ทางจุฬาฯก็จะตรวจเชื้อโควิดให้ก่อนกลับ เพื่อความปลอดภัย จึงอยากให้นิสิตอดทนพักอยู่ในหอพักไปก่อน “ขณะนี้มีนิสิตในหอพักจุฬาฯกว่า 1,000 กว่าคนใน 5 ตึก จากจำนวนที่พักได้ 3,500 คน ซึ่งบางส่วนก็กลับบ้าน เพราะตอนนี้จุฬาฯเรียนออนไลน์ สำหรับนิสิตที่พักในหอพักต่อ เราก็รับฟังความเห็นทุกเรื่อง ถ้าติดขัดเรื่องใด เช่น ไวไฟ ไม่แรง เราก็จะจัดหาซิมใหม่ให้เพื่อให้การเรียนออนไลน์ราบรื่น และตอนนี้ทุกที่มีความเสี่ยง ก็อยากขอให้นิสิตอดทน และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเราจะได้ผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน” นายชัยพร กล่าว