ญาติของ 2 แม่ลูก ที่เสียชีวิตบนรถทัวร์ที่ถูกไฟไหม้ เตรียมเชิญวิญญาณออกจากรถทัวร์ พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาโดยเร็ว พี่สาวเผยผู้ตายยืนยันจะใช้บริการของ407 เพราะเชื่อว่าปลอดภัยที่สุด ขอให้น้องสาวเป็นรายสุดท้ายไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 13 ม.6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถทัวร์โดยสารสายอุดรธานี-กรุงเทพฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านของพี่เขยและพี่สาว ของ น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 24 ปี และ ด.ญ. ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ
โดยบรรยากาศโดยทั่วไปพบว่าญาติๆจาก จ.อุดรธานี ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อเตรียมที่จะเดินทางไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกครั้ง เพื่อขอรับศพ 2 แม่ลูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณี และจะมีการเชิญวิญญาณของสองแม่ลูกที่เสียชีวิตอยู่ภายในชั้นสองของรถทัวร์ด้วยในวันนี้
น.ส. ยุพาวรรณ กาล้อม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.5 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พี่สาวของน.ส.ปรางค์ทอง และเป็นป้าของ ด.ญ. ปวรรัตน์ กล่าวว่า ครั้งแรกที่เห็นข่าวในใจไม่อยากเชื่อว่าเป็นน้องสาว ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับน้องสาว ภาวนาว่าขอให้กลับถึงบ้านที่อ.พิมายแล้ว พอเช็คเบอร์โทรเข้าก็ไม่มีเบอร์น้องสาวโทรมา เพราะน้องสาวบอกว่าลืมสายชาร์จไว้ที่รถตนเอง อาจจะแบตหมดหรือลืมชาร์จ จึงเช็คไปที่ บริษัท 407 พัฒนา โดยบริษัทบอกว่า น้องสาวนั่งอยู่ชั้นสอง เบาะหลังด้านขวา
"วินาทีนั้น 80%คาดว่าเป็นน้องสาวกับหลานของเรา อาจจะเสียชีวิตบนรถทัวร์เพราะเกิดไฟไหม้และใกล้จุดที่ทั้งคู่นั่ง ซึ่งตอนนี้ตนเองและครอบครัวมั่นใจว่าเป็นศพของน้องสาวและหลานสาว แต่ยังขอรับศพกลับไม่ได้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่บอกให้รอวันทำการคือวันที่ 19 เม.ย.แต่ทุกคนก็ต้องกลับไปทำงานเพราะลาต่อจากวันหยุดยาวไม่ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยในเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนที่เดินทางมาจากอุดรธานีและญาติๆทุกคนได้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณน้องไปสู่สุขติ และอยากจะฝากบริษัทรถทัวร์ ขอให้น้องสาวและหลานสาวเป็นรายสุดท้าย ไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะความสูญเสียครั้งนี้เรียกกลับคืนมาไม่ได้ ส่วนตัวก็ไม่อยากจะโทษคนขับ คิดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากรถที่ไม่ได้เช็คให้ดี และในวันนี้ก็จะเดินทางไปที่ รพ.ฯอีกครั้งเพื่อติดต่อขอรับศพกลับมา และจะมีการเชิญวิญญาณทั้งคู่ในวันนี้ด้วย"
ขณะที่ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นขณะนี้ก็พอจะทราบแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอสรุปจากทางผู้เชี่ยวชาญของกรมการขนส่งทางบกที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบก่อน เมื่อได้เอกสารสรุปสาเหตุมาแล้วทางพิสูจน์หลักฐานก็จะเข้าตรวจสอบอีกครั้งตามขั้นตอน ในส่วนของการสอบปากคำพนักงานขับรถก็เสร็จสิ้นในเบื้องต้นและได้แจ้งข้อหาไปแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้เชิญทางบริษัทฯมาให้ปากคำรวมทั้งพยานอื่นๆอีกหลายคนเพื่อสรุปสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 13 ม.6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถทัวร์โดยสารสายอุดรธานี-กรุงเทพฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านของพี่เขยและพี่สาว ของ น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 24 ปี และ ด.ญ. ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ
โดยบรรยากาศโดยทั่วไปพบว่าญาติๆจาก จ.อุดรธานี ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อเตรียมที่จะเดินทางไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกครั้ง เพื่อขอรับศพ 2 แม่ลูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณี และจะมีการเชิญวิญญาณของสองแม่ลูกที่เสียชีวิตอยู่ภายในชั้นสองของรถทัวร์ด้วยในวันนี้
น.ส. ยุพาวรรณ กาล้อม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.5 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พี่สาวของน.ส.ปรางค์ทอง และเป็นป้าของ ด.ญ. ปวรรัตน์ กล่าวว่า ครั้งแรกที่เห็นข่าวในใจไม่อยากเชื่อว่าเป็นน้องสาว ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับน้องสาว ภาวนาว่าขอให้กลับถึงบ้านที่อ.พิมายแล้ว พอเช็คเบอร์โทรเข้าก็ไม่มีเบอร์น้องสาวโทรมา เพราะน้องสาวบอกว่าลืมสายชาร์จไว้ที่รถตนเอง อาจจะแบตหมดหรือลืมชาร์จ จึงเช็คไปที่ บริษัท 407 พัฒนา โดยบริษัทบอกว่า น้องสาวนั่งอยู่ชั้นสอง เบาะหลังด้านขวา
"วินาทีนั้น 80%คาดว่าเป็นน้องสาวกับหลานของเรา อาจจะเสียชีวิตบนรถทัวร์เพราะเกิดไฟไหม้และใกล้จุดที่ทั้งคู่นั่ง ซึ่งตอนนี้ตนเองและครอบครัวมั่นใจว่าเป็นศพของน้องสาวและหลานสาว แต่ยังขอรับศพกลับไม่ได้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่บอกให้รอวันทำการคือวันที่ 19 เม.ย.แต่ทุกคนก็ต้องกลับไปทำงานเพราะลาต่อจากวันหยุดยาวไม่ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยในเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนที่เดินทางมาจากอุดรธานีและญาติๆทุกคนได้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณน้องไปสู่สุขติ และอยากจะฝากบริษัทรถทัวร์ ขอให้น้องสาวและหลานสาวเป็นรายสุดท้าย ไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะความสูญเสียครั้งนี้เรียกกลับคืนมาไม่ได้ ส่วนตัวก็ไม่อยากจะโทษคนขับ คิดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากรถที่ไม่ได้เช็คให้ดี และในวันนี้ก็จะเดินทางไปที่ รพ.ฯอีกครั้งเพื่อติดต่อขอรับศพกลับมา และจะมีการเชิญวิญญาณทั้งคู่ในวันนี้ด้วย"
ขณะที่ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นขณะนี้ก็พอจะทราบแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอสรุปจากทางผู้เชี่ยวชาญของกรมการขนส่งทางบกที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบก่อน เมื่อได้เอกสารสรุปสาเหตุมาแล้วทางพิสูจน์หลักฐานก็จะเข้าตรวจสอบอีกครั้งตามขั้นตอน ในส่วนของการสอบปากคำพนักงานขับรถก็เสร็จสิ้นในเบื้องต้นและได้แจ้งข้อหาไปแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้เชิญทางบริษัทฯมาให้ปากคำรวมทั้งพยานอื่นๆอีกหลายคนเพื่อสรุปสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป