เมื่อวันที่ 13 เม.ย.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ในปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด – 19) และมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแพร่ระบาดกระจายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใย และขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น นั้น ในส่วนของศธ. ตนได้สั่งการให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดศธ. ปรับปรุงประกาศ ศธ.เรื่อง การป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และให้ปรับลดเวลาและวันทำงานของบุคลากรในสังกัด ศธ. ใหม่ โดยให้บุคลากรและหน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ต่อเนื่องจากประกาศฉบับเดิม ตั้งแต่วันที่ 9 – 23 เมษายน ขยายเป็นถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 และจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานไม่เกินร้อยละ 10 หรือ ให้ Work from Home จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของบุคลากรทั้งหมด พร้อมทั้งให้ออกแนวทางปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้การทำงานพัฒนาการศึกษาของชาติสะดุด น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า “มาตรการที่ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น งดการจัดประชุม อบรม สัมมนา ของข้าราชการ นักเรียน และนักศึกษาในสังกัด ศธ. ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ถ้าจำเป็นให้ใช้รูปแบบออนไลน์ งดจัดกิจกรรมใดๆ ที่มีการรวมกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา ในช่วงปิดภาคเรียนนี้ ส่วนการดำเนินการรับสมัครนักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาต่อในสถานศึกษา ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รวมถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ อื่นๆ ทราบว่าแต่ละสังกัด ก็มีการเปิดรับสมัครแบบออนไลน์แล้ว แต่ถ้ามีการรับสมัครในพื้นที่ด้วย หรือ จำเป็นต้องมีการสอบ การสัมภาษณ์ จะต้องดำเนินการตามมาตรการและขั้นตอนที่เข้มข้นสูงสุด” หากมีความจำเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมในระหว่างนี้ ต้องขอความเห็นชอบจากสาธารณสุขในพื้นที่ก่อน และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด -19 ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด และขอให้บุคลากรในสังกัด ศธ.ทุกคน ดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด หากพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือ มีอาการที่อาจจะเข้าข่ายเป็นผู้ติดเชื้อจะต้องแจ้งผู้เกี่ยวข้องทันที รวมทั้งสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองให้ตระหนักถึงการดูแลตัวเองด้วย น.ส.ตรีนุช กล่าว