เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ศาลาว่าการกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและ ปลัดกระทรวงกลาโหมได้ประชุมร่วมกับ เหล่าทัพ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)และตำรวจผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อติดตามความพร้อมของโรงพยาบาลสนามที่กระทรวงกลาโหมจัดตั้งขึ้นเร่งด่วน
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ภาพรวมปัจจุบัน กระทรวงกลาโหมร่วมกับสาธารณสุข (สธ.)เร่งจัดตั้งและเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ ทั้งการสนับสนุนยานพาหนะ กำลังพลและสิ่งอุปกรณ์กับส่วนราชการในพื้นที่ จัดตั้งเป็นโรงพยาบาล.สนาม และจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ขึ้นในหน่วยทหาร จำนวน 24 แห่ง 5,341 เตียง โดยมีศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กองทัพไทย เป็นหน่วยประสานกับส่วนราชการต่างๆ ภายใต้การบริหารจัดการภาพรวมโดย สธ. เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระจายเป็นวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่ชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน ยังคงความเข้มข้นเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซึ่งพบสถิติสูงขึ้น จากความรุนแรงในเมียนมา พร้อมกันนี้ทุกเหล่าทัพ ยังคงทำหน้าที่หลักร่วมกับ สธ. ในการคัดกรองและบริหารจัดการสถานกักตัวควบคุมโรค ทั้ง SQ และ ASQ จำนวน 161 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค.63 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเดินทางกลับจากต่างประเทศผ่านการกักตัวควบคุมโรคแล้ว 251,023 คน อยู่ระหว่างกักตัว 13,649 คน พบผู้ติดเชื้อ 1,998 ราย
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมได้แสดงความขอบคุณและห่วงใยการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ตำรวจทุกหน่วยงาน ที่สนับสนุนแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศต่อเนื่องที่ผ่านมา พร้อมให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ระมัดระวังป้องกันตนเองและครอบครัว และขอให้หน่วยต้นสังกัดได้เสนอความต้องการและเร่งกระจายวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงและในพื้นที่เสี่ยงสูงเป็นลำดับต้น ๆ เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ทั้งนี้พล.อ.ชัยชาญได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งสำรวจความพร้อมของบุคลากรแพทย์ทหารและแพทย์อาสาของกองทัพ เพื่อประเมินความพร้อมในการสนับสนุนและทำงานร่วมกับ สธ.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้โรงพยาบาลสนาม มีมาตรฐานเทียบเคียงกัน และรองรับผู้ป่วยระดับต่ำที่ไม่มีอาการรุนแรงที่มีจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้ทุกเหล่าทัพ เพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันในหน่วยทหารและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ในการปฏิบัติงานที่ร่วมกันลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายโรคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

