แม่ฮ่องสอน ตรวจพบผู้ป่วย โรคโควิดเพิ่มอีก 5 ราย รวมยอดสะสมเป็น 13 ราย จากการตรวจหาเชื้อ 194 ราย ไม่พบเชื้อ 189 ราย สร้างความกังวลให้กับประชาชนที่ยากจนอย่างหนักเพราะหวั่นจะไม่มีงานทำและต้องอดอยากไปอีกนาน
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ได้แถลงข่าวของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่หรือ รอบเมษายน 2564 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า เริ่มพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 11 เมษายน 2564 รวม 8 ราย นั้น ในวันนี้ ( 12 เม.ย 2564 ) รายงานพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีกจำนวน 5 ราย รวมเป็น 13 ราย ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง 6 ราย อำเภอสบเมย 4 ราย อำเภอเมือง 1 ราย อำเภอขุนยวม 1 ราย และปางมะผ้า 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 13 ราย เป็นเพศชาย 8 ราย ( 61.5 %) เพศหญิง 5 ราย (38.5%)
ผู้ป่วยทั้ง 13 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่พบรายใหม่ 5 ราย นั้น 1 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด คือ เป็นคุณตาของผู้ป่วยรายแรก (อำภอสบเมย) อีก 3 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยรายที่ 7 (อำเภอแม่สะเรียง) ที่ได้แจ้งไปเมื่อวานนี้ ส่วนอีก1 ราย เป็นผู้ป่วย อำเภอปางมะผ้า ที่มีประวัติการไปเที่ยวสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร
สำหรับมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้ดำเนินการไปแล้วได้แก่การดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งได้มีการรับการรักษาไว้ที่ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 3 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 6 ราย และโรงพยาบาลสบเมย 4 ราย ศักยภาพ ในการรองรับผู้ป่วยโควิด – 19 ของโรงพยาบาลในจังหวัด สามารถรองรับได้ 66 ราย ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 53 ราย อย่างไรก็ตาม ตามแผนเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขของจังหวัด เมื่อพบผู้ป่วยโควิด – 19 ตั้งแต่ 10 รายขึ้นไป จะต้องมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น ซึ่งได้ประสานงานเรื่องการจัดเตรียมสถานที่ คือโรงยิมของสนามกีฬากลาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเริ่มดำเนินการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ตามรายการที่กำหนด ตลอดจนจัดเตรียมบุคลากรที่จะปฏิบัติงาน ไว้พร้อมแล้ว โดยในเบื้องต้นจะให้สามารถรองรับผู้ป่วย 40 ราย และขยายเพิ่มได้มากถึง 120 ราย
สำหรับศักยภาพของการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วันนี้ รถแลปพระราชทานที่มาประจำ การอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง ตั้งแต่วัน ที่ 2 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ได้ถูกเรียกกลับไปปฏิบัติงานที่จังหวัดเชียงใหม่การนำส่งตัวอย่างตรวจจากอำเภอสายใต้อาจมีความล่าช้ามากว่าครั้งที่ผ่านมา สำหรับห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลศรีสังวาลย์สามารถรองรับการตรวจได้วันละประมาณ 200 ราย โดยขณะนี้ยอดคงคลังของชุดตรวจ PCR COVID-19 ยังคงเหลืออยู่ในคลัง 960 ชุด
ด้านการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเพิ่มเติม รายที่1-8 มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรวม 142 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 90 ราย เสี่ยงต่ำ 52 ราย มีผู้สัมผัสที่ได้รับการตรวจทั้งหมด 84 ราย ผลพบเชื้อ 6 ราย สำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วยที่พบรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 5 ราย ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม จึงขอให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยตาม Timeline ดังที่ได้แจ้งไปแล้วนั้น หากพบว่าได้มีการพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที หรืออยู่ในสถานที่ปิด มีเครื่องปรับอากาศ ร่วมกันนานกว่า 15 นาที ถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ให้รีบมารับการตรวจยังโรงพยาบาลในพี้นที่ และให้แยกกัก ตนเองเป็นเวลา14 วัน สังเกตอาการ หากพบว่า มีไข้ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือ มีอาการไม่สบาย ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้รีบโทรแจ้งโรงพยาบาล ในพื้นที่ หรือโทรแจ้ง 1669
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้มีการออกคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , สมุทรปราการ , นนทบุรี , นครปฐม , ปทุมธานี และ เชียงใหม่ ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือ อสม.ในหมู่บ้านและเฝ้าระวังตนเองหลีกเลี่ยงการเข้าชุมชนและพื้นที่หนาแน่นเป็นเวลา14 วัน
สำหรับการจัดงานประเพณีต่าง ๆ หากหลีกเลี่ยง หรืองดได้ก็จะเป็นการดีที่สุด แต่หากยังมีความจำ เป็นจะต้องจัดงาน เนื่องจากมีการตระเตรียมการไว้แล้ว ก็ขอความร่วมมือให้เข้มงวดดำเนินการตามมาตรการ ด้านสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การจัดกิจกรรมสงกรานต์ให้เน้นเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี ให้จัด ในพื้นที่โล่งแจ้ง งดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเล่นสาดน้ำ หรือสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด งดการประแป้ง งดการเล่นปาร์ตี้โฟม งดการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในที่สาธารณะตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 การจัดพิธีรดน้ำดำหัว หลีกเลี่ยงการจัดในที่คับแคบ หรือในพื้นที่ห้องปรับอากาศ โดยกำหนดจำนวนของผู้เข้าร่วมงานของสถานที่ 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตรและการรดน้ำให้มีการเรียงแถวรดน้ำ เว้นระยะห่างกัน 1 เมตรและให้สวมหน้ากากอนามัยทุกคน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกัน เป็นเวลานาน จึงขอความร่วมมือ ให้พี่น้องประชาชน ดำเนินการตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ สถานที่เสี่ยงในระยะนี้และหากมีอาการสงสัย ให้โทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทุกสถานบริการ