เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 10 เมษายน ที่สถานีรถไฟนครราชสีมา พบประชาชนจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักเรียน นักศึกษามาใช้บริการรถไฟกันอย่างเนืองแน่น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่โบกี้โดยสารพร้อมกำหนดจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและให้สวมหน้ากากอนามัยจึงจะอนุญาตให้ใช้บริการได้ โดยเฉพาะขบวนรถไฟท้องถิ่นขาขึ้นภาคอีสาน ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่าปกติ ยืนถือสัมภาระสิ่งของอยู่ตามชานชาลา รอขึ้นขบวนรถ 427 นครราชสีมา-อุบลราชธานี เพื่อมุ่งหน้ากลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีจิตอาสาจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) จำนวน 4 นาย ช่วยยกสิ่งของสัมภาระและอำนวยความสะดวกรวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทาง นายอำพล รัตนิยะ นายสถานีรถไฟนครราชสีมา เปิดเผยว่า ห้วงเทศกาลสำคัญหรือช่วงวันหยุดยาวจะมีประชาชนมาใช้บริการโดยสารรถไฟมากกว่าปติ เฉลี่ย 2-3 เท่าตัว หรือประมาณ 5 พันคนต่อวัน โดยขบวนรถไฟท้องถิ่นถือเป็นขวัญใจของผู้ใช้แรงงานและผู้หาเช้ากินค่ำ เนื่องจากราคาค่าโดยสารค่อนข้างถูกมาก หากเปรียบเทียบกับอัตราค่าโดยสารกับรถชนิดอื่นๆ เช่นค่าโดยสารระหว่าสถานีนครราชสีมาถึงสถานีอุบลราชธานี เพียง 58 บาท จึงได้รับความนิยมค่อนข้างมาก