ปลายเม.ย.นี้จะเข้ามาเพิ่มอีก 5 แสนโดส โดยจะส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบคุณภาพ และส่งต่อกรมควบคุมโรคตรวจรับก่อนจะกระจายฉีดตามแผน ในกลุ่มอายุ 18-59 ปี
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 05.35 น. ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผอ.องค์การเภสัชกรรม และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 1 ล้านโดส จากประเทศจีน ที่ขนส่งโดยสายการบิน Air China Airline เที่ยวบินที่ CA603 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพมหานคร
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า จากที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขโดยองค์การเภสัชกรรมจัดหาวัคซีนโควิด-19 เร่งด่วน 2 ล้านโดส โดยมีการเจรจาจัดซื้อจากบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ซายน์ จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน (Sinovac Life Sciences Co.,Ltd., People’s Republic of China) โดยวัคซีนล็อตแรก ได้จัดส่งให้องค์การเภสัชกรรมไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.พ.64 จำนวน 2 แสนโดส ล็อตที่2 เมื่อวันที่ 22 มี.ค.64 จำนวน 8 แสนโดส และในวันนี้ได้มีการส่งมอบล็อตที่ 3 อีก 1 ล้านโดส โดยวัคซีนดังกล่าวจัดส่งด้วยกล่องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ (Passive cold carton) ระหว่าง 2-8 องศา ตลอดเวลา ที่สามารถเก็บอุณหภูมิได้นานถึง 96 ชั่วโมง
วัคซีนทั้งหมดนี้จะขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศา ด้วยเช่นกัน ที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จากนั้นจะดำเนินการตรวจรับและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ อีกครั้ง และเมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว จะส่งให้กรมควบคุมโรคตรวจรับวัคซีนและกระจายไปยังหน่วยบริการ และสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่กำหนด โดยวัคซีนนี้จะฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย ที่มีอายุ 18-59 ปี คนละ 2 โดส
นพ.วิฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า ประมาณปลายเดือนเมษายนนี้จะมีการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคจากประเทศจีนอีก จำนวน 5 แสนโดส โดยเป็นในส่วนที่องค์การเภสัชกรรมได้สั่งซื้อเพิ่มเติมไว้ โดยวัคซีนซิโนแวค นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานบริหารจัดการวัคซีนโควิด -19 ของประเทศไทยที่เป็นไปตามแผนงานกระทรวงสาธารณสุขที่วางไว้อย่างรัดกุมและเป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต ปกป้องระบบสุขภาพ ของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไป