วันที่ 9 เม.ย. 2564 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายกมล กัญญาประสิทธิ์. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวว่าในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด19 มาเป็นเวลาถึง 93 วัน แต่วันนี้ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 เป็นชายอายุ 31 ปี 1 ราย จากการสอบประวัติมีอาชีพเป็นพนักงานขายทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเผยไทม์ไลน์ ว่าเมื่อวันที่ 2 เม.ย 64 ไปหาเพื่อนที่คอนโด จากนั้นไปเที่ยวผับย่านทองหล่อกับเพื่อน ออกจากผับก็ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งเพียงคนเดียว
จากนั้นวันที่ 4เม.ย. 64 เดินทางกลับมาบ้านที่พิจิตรโดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งบ้านอยู่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร นอนที่บ้านกับภรรยาและลูกสาว 5 เม.ย. 64 อยู่บ้านกับภรรยาและลูก พบกับญาติพี่น้องและลูกจ้างที่ร้านเสริมสวยของแม่ จำนวน 3 คน จากนั้นเวลา 15.00 น. ลูกสาวไม่สบายจึงขับรถส่วนตัวพาลูกไปหาหมอที่ รพ.ชัยอรุณ ตนเองจึงนอนพักกับแม่และลูกที่โรงพยาบาล ส่วนวันที่ 6 เม.ย. 64 ก็ขับรถไปพบลูกค้าที่อำเภอเขาค้อ และ ที่ภูทับเบิก ร่วมกับเพื่อนพนักงานในเครือบริษัท 9 คน และได้มีการสังสรรค์ร่วมกัน วันที่ 7 เม.ย. 64 เวลา 08.00 น. รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแต่ก็ยังพอขับรถไหว จึงไปติดต่องานกับลูกค้าซึ่งเป็นไร่กระหล่ำปลีที่ภูทับเบิก และแวะกินขนมจีนที่อำเภอหล่มสัก จนกระทั่งเวลา 15.00 น. ก็ทราบข่าวว่าเพื่อนป่วยและไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.เวชธานี กทม.
ตนเองจึงเริ่มกังวลใจเมื่อกลับมาบ้านที่พิจิตรจึงจะไปตรวจที่ รพ.พิจิตร แต่ก็เปลี่ยนใจขอไปที่ รพ.ตะพานหิน ซึ่งก่อนที่จะไป รพ.ตะพานหิน แวะรับประทานก๋วยจั๋บหน้า รพ.พิจิตร ก็ได้รับทราบข่าวว่าเพื่อนที่ไปตรวจพบว่าผลเป็นบวก ติดเชื้อโควิด 19 ตนจึงรีบไปขอรับการตรวจที่ รพ.ตะพานหิน พบบุคลากรทางการแพทย์ 3 คน และรู้ว่าผลตรวจพบเชื้อโควิด 19 เมื่อ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 8 เม.ย. 64 จึงรีบบอกกับแม่และคนในครอบครัว จำนวน 9 คน ทั้งหมดจึงได้ขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.พิจิตร ก็ปรากฏว่า ทุกคนปลอดภัย ผลออกมาเป็นลบ นั่นหมายความถึงไม่มีเชื้อโควิด 19 ในร่างกายแต่อย่างใด ส่วนบุคคลอื่นๆตามไทม์ไลน์ที่ปรากฏรวมแล้ว 36 คน ก็ต้องรอลุ้นผลตรวจว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายกมล กัญญาประสิทธิ์. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ขอให้ชาวพิจิตรอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ขอให้ใช้ชีวิตและทำมาค้าขายตามปกติ แต่ขอให้การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องพบกับผู้คนแปลกหน้าหรือไปในที่ ที่มีผู้คนเยอะๆ รวมถึงขอให้ปฏิบัติตามที่แพทย์และ อสม. แนะนำ ล่าสุดข้อมูลผู้ที่มาจากต่างจังหวัดลงทะเบียนแนแอพพลิเคชั่น “ปกป้องพิจิตร” มาจากพื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด 1,553 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูง 14 จังหวัด 226 คน พื้นที่เฝ้าระวังจาก 53 จังหวัด 180 คน รวม 1,999 คน ซึ่งบุคคลทั้งหมดนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของ อสม. ด้วยแล้ว