กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสู่ความเป็นมืออาชีพ และโครงการยกระดับศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ/วิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้าชุมชน เร่งส่งเสริมการทำบัญชีหนุนเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจวิสาหกิจชุมชนเข้มแข็ง ยั่งยืน พร้อมรับ การแข่งขันทางการค้าทุกระดับและสามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อจดทะเบียนเป็นกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ ที่เข้มแข็งในอนาคต
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก และต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน โดยการส่งเสริมให้ประชาชนนำทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่น มาสร้างสรรค์ต่อยอด เป็นผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่า สามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่มั่นคงอย่างยั่งยืน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายเน้นย้ำให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินงานตามภารกิจในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชี การวางรูปแบบบัญชี ระบบการควบคุมภายใน เสริมสร้างความรู้การจัดทำบัญชี งบทดลอง และงบการเงิน รวมถึงส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนมีการใช้ประโยชน์ข้อมูลทางการเงินการบัญชีในการบริหารจัดการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้เกิดขึ้นกับวิสาหกิจชุมชน
ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยบูรณาการร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสู่ความเป็นมืออาชีพ วิสาหกิจชุมชนเป้าหมาย จำนวน 390 แห่ง ประกอบด้วย วิสาหกิจชุมชนที่ร่วมบูรณาการกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2564 จำนวน 154 แห่ง และวิสาหกิจชุมชนติดตามต่อเนื่อง จำนวน 236 แห่ง และโครงการยกระดับศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ/วิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเป้าหมาย ร่วมบูรณาการกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 1,500 แห่ง รวมเป้าหมายดำเนินการ ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,890 แห่ง
ขั้นตอนในการดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร ก่อนที่จะเข้าไปวางรูปแบบบัญชีและระบบควบคุมภายในที่เหมาะสมกับธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนและสภาพท้องถิ่นนั้นๆ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอนแนะนำและติดตามการจัดทำบัญชีและงบการเงิน รวมทั้งพัฒนาคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนให้สามารถใช้ข้อมูลทางการเงินและ การบัญชีในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือพัฒนาวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพดีอยู่แล้วให้มี ความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งสร้างความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือต่อสมาชิกและบุคคลภายนอก กลายเป็นระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็งพร้อมสำหรับการแข่งขันทางการค้าทุกระดับ สามารถพัฒนาต่อยอด เพื่อจดทะเบียนเป็นกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ที่เข้มแข็งในอนาคต
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2564 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดทำสื่อการเรียนรู้ การจัดทำบัญชีวิสาหกิจชุมชนผ่านแอปพลิเคชันทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS เวอร์ชั่น 9 ขึ้นไป พิมพ์ชื่อ “ASL” และในระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.4 ขึ้นไป พิมพ์ชื่อ “CAD Smart Learning” เพื่อเป็นเครื่องมือในการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบัญชี โดยเป็นสื่อการสอนการจัดทำบัญชี งบทดลอง งบการเงิน และการใช้ข้อมูล ทางบัญชีในการบริหารธุรกิจแก่วิสาหกิจชุมชน ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดทำบัญชี ทำให้วิสาหกิจชุมชน มีระบบบัญชีที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ มีระบบควบคุมภายในที่ดี สร้างความน่าเชื่อถือต่อสมาชิกและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการของวิสาหกิจชุมชน สามารถรู้ผลประกอบการและนำข้อมูลจากงบการเงิน มาวางแผนและบริหารกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น