"โจรใต้"เหิม! ลอบบึ้มรถยนต์ผู้นำศาสนาในพื้นที่ปัตตานี ก่อนยิงถล่มซ้ำกว่า 30 นัด เสียชีวิตคารถ ขณะที่"ตร."ชี้ยิงผิดตัว หลังผู้เสียชีวิตขับรถยี่ห้อเดียวกับตำรวจที่เป็นเป้าหมาย
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นและตามด้วยเสียงปืนจำนวนหลายนัด เหตุเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง หมู่ที่ 4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้ง พร้อมนำกำลังร่วมไปที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดเส้นทางดังกล่าวชั่วคราว ตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าริมถนนถูกลอบวางระเบิดบริเวณโค่นเสา ทำให้เสาไฟฟ้าล้มพาดถนน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 40 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอร์นเทา ทะเบียน กจ 943 ปัตตานี สภาพไถลเข้าไปในชนเข้ากับสวนยางพาราได้รับความเสียหาย และยังพบร่องรอยรูกระสุนปืนบริเวณประตูและกระจกด้านคนขับจนพรุนนับได้กว่า 30 รู
จากการตรวจสอบภายในรถบนเบาะคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตถูกยิงพรุนทั้งตัวทราบชื่อ นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี มีตำแหน่งเป็นโต๊ะบิหลั่น ประจำมัสยิดคลองช้าง(ผู้อาสานประจำมัสยิด) อยู่บ้านเลขที่ 46/2 บ้านควนลาแม หมู่ที่ 3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนบนถนนกว่า 30 ปลอก และปลอกกระสุนลูกซอง 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่า ผู้ตายเดินทางมาตามลำพังคนเดียว โดยขับรถมาจากมัสยิดเพื่อเดินทางหาพี่สาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งใกล้กับบ้านของพี่สาว ปรากฏมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ที่ฝังไว้ใต้โค่นเสาไฟฟ้าจนเกิดระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าโค้นลงมา ผู้ตายไม่ทันหลบจึงได้พุ่งชนก่อนรถจะเสียหลักไถลตกลงข้างทางชนต้นยางพารา คนร้ายอีกชุดที่ดักอยู่ในป่าและมืด เข้ามายิงถล่มซ้ำใส่รถจนเสียงปืนดังสนั่นจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีเข้าไปในป่า
ขณะที่ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนใจต่อพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่และเป็นที่รู้จักนับถือของชาวบ้าน เหตุครั้งนี้จากที่ได้รับรายงานทราบว่าผู้ตายไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มคนร้าย แต่เนื่องจากผู้ตายใช้รถยนต์ซึ่งเหมือนกับรถของเจ้าหน้าที่รัฐนายหนึ่ง ที่เป็นเป้าหมายของคนร้ายที่หมายจะสังหาร ซึ่งหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้หน่วยกำลังสนธิกำลังร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงว่า เป็นฝีมือของกลุ่มใด และเชื่อว่าน่ารู้ผล 2-3 วัน เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่