กองกำลังสุรศุกดิ์มนตรี บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2106 ฉก.ทพ.21 ร่วมกับหลายฝ่ายดักซุ่มริมน้ำโขงพบเรือต้องสงสัย 2 ลำติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามน้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเข้ามาจอดริมตลิ่งฝั่งไทย จึงได้ส่งสัญญาเพื่อตรวจค้น แต่เรือทั้ง 2 ลำได้รีบขับแล่นหนีจะข้ามน้ำโขงกลับไป เรือลำหนึ่งได้เฉียวชนกับโขดหินที่น้ำโขงกำลังลดมาก ทำให้เรือพลิกคว่ำสิ่งของในเรือกระจายไหลตามน้ำไป รุ่งเช้า จนท.ออกเคลี่ยร์พื้นที่พบยาเสพติดทั้งยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 เม.ย.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายวราดิศร อ่อนนุช ปลัดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ดาบทอง อุภัยพรม ผกก.สภ.ปากคาด พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ ฝ่ายปกครองอำเภอบึงกาฬและปากคาด แถลงผลการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ได้ จำนวน 1,345,540 เม็ด และยาไอซ์ 62 กิโลกรัม รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท หลังทหาร ตำรวจ นรข.และฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจยึดได้ริมแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ
ทั้งนี้จากการสืบทราบของ พ.อ.มงคล ห่อทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดข้ามน้ำโขงเข้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้าชาวไทยจำนวนมาก ที่บริเวณริมน้ำโขงบ้านเวินโดน หมู่ 8 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ หลังจากทางภาคเหนือมีการสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้การขนย้ายยาเสพติดเข้าไทยยากลำบาก จึงหันมาทะลักส่งเข้าไทยทางภาคอีสาน ดังนั้น ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงต่อ กกล.สุรศักดิ์มนตรี เฝ้าระวังตรวจเข้มตามแนวชายแดนริมน้ำโขง กระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.เช้านี้ ร.ท.บุญทัน นกกระโทก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2106 หน่วยเฉพาะกิจ ทพ.21 ได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยเรือ นรช.รัตนวาปีและ นรข.บึงกาฬ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ตร.กก.สืบสวน ภ.จว.บีงกาฬ ชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ตชด.244 บึงกาฬ และปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอปากคาดและอำเภอบึงกาฬ ร่วมกันลาดตระเวนทั้งบนบกและในแม่น้ำโขง เวลาดังกล่าวขณะชุดลาดตระเวนในน้ำโขงสังเกตเห็นเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ 2 ลำแล่นข้ามน้ำโขงมาจอดใกล้ริมตลิ่ง จึงแสดงตัวขอตรวจค้น คนขับเรือพร้อมผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกันประมาณลำละ 3 คน เห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับเรือเร่งเครื่องยนต์หลบหนีอย่างรวดเร็วทันที แต่เรือ 1 ใน 2 ลำเกิดแล่นพลาดท่าไปชนโขดหินห่างออกไป 150 เมตรซึ่งน้ำโขงเริ่มลดลงทุกวัน ทำให้เรือพลิกคว่ำทั้งคนและสิ่งของตกน้ำไปด้วย แต่เรืออีกลำคนขับก็แล่นวนกลับมารับเพื่อนขึ้นเรือกลับไปด้วย แต่ จนท.ก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้าเคลียร์พื้นที่ เนื่องจากยังมืดค่ำอยู่เกรงจะได้รับอันตราย
และเช้าวันนี้ได้ร่วมกันออกลาดตะเวนตามลำแม่น้ำโขง พบกระสอบปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่จำนวน 2 กระสอบ ลอยเข้ามาติดริมฝั่งโขง ในพื้นที่บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาด เป็นยาบ้า 570,000 เม็ดและไอซ์ 62 กิโลกรัม ที่บ้านต้าย ต.นากั้ง อ.ปากคาด 1 กระสอบและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พบอีก 1 กระสอบที่บริเวณลำน้ำโขง ปากห้วยหนองมุม บ้านท่าสุขสันต์ ต.ปากคาด นับยาบ้าได้ 380,000 เม็ด ค่าสุดตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด สภ.เมืองบึงกาฬ ฝ่ายปกครองมีกำนันตำบลไคสี หมู่ที่ 2 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ พบกระสอบปุ๋ยลอยมาติดอยู่บริเวณริมน้ำโขง ปากห้วยผาคาง อีก 1 กระสอบยาบ้า 391,540 เม็ด
ช่วงหัวค่ำก่อนหน้านี้ น.ต.วชิรวิทย์ ใจสัตย์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร่วมกับพวกออกลาดตระเวนบนถนสาย 212 บึงกาฬ-ปากคาด พบชายต้องสงสัยขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค ทะเบียน 1 กฉ 1166 สุพรรณบุรี ขี่รถจอดอยู่บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 105 ท้องที่บ้านโนนยาง ต..หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จึงยึดรถเพื่อสอบถาม แต่ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งรถ จยย.วิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้ เข้าตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ดวางอยู่ข้างหลักกิโลเมตรจึงทำการตรวจยึด จึงรวมกันนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รวมของกลางยาบ้า 4 รายการ จำนวน 1,345,540 เม็ด มูลค่า 107,643,200 บาท และไอซ์ 62 กิโลกรัม มูลค่า 15,000,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท นำของกลางส่ง พงส.สภ.ปากคาดและสภ.บึงกาฬ สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.