“ธรรมนัส-นฤมล” ลงพื้นที่ จ.กระบี่ พบปะเกษตรกร มอบนโยบายใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 พร้อมติดตามเยี่ยมชมกิจกรรมกระทรวงแรงงานเคลื่อนที่
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อพบปะเกษตรกรและร่วมชี้แจงแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) พร้อมมอบเมล็ดพันธุ์ปอเทืองเพื่อนำไปปลูกบำรุงดิน ก่อนจะร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งจำนวน 15 ต้นด้วย
ร้อยเอกธรรมนัส ได้กล่าวมอบนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินว่า พี่น้องชาวเขาพนม กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมายวันนี้ภาครัฐส่งเสริมให้พี่น้องทำการเกษตรทฤษฏีใหม่ เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ในการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 มันน่ากลัว เราต้องดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และอาชีพการเกษตรของเราถือว่าปลอดภัย จึงขอฝากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จังหวัดกระบี่ ดูแลเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้พี่น้องในพื้นที่ด้วย เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยต่อไป
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด จัดให้พี่น้องประชาชน ที่เดือดร้อนที่ทำกินลงทะเบียนไว้ และมาจับฉลากจัดสรรรวบรวมเป็นรูปแบบของสหกรณ์ มีจำนวน 72 ราย ซึ่งจริงๆแล้วแปลงนี้มี 100 กว่าราย ที่มีสิทธิ์เข้าทำประโยชน์ในที่ดินส.ป.ก. 4-01 โดยแต่ละรายจะได้รับเข้าทำประโยชน์จำนวน 3 ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งมีโครงการที่จะปลูกบ้าน ส่งเสริมอาชีพแบบทฤษฎีใหม่ และต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟ น้ำ พร้อมควบคู่กับการส่งเสริมอาชีพให้พี่น้องเกษตรกรได้อยู่อย่าง มั่นคง มั่งคั่งยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ตามที่ดินแปลงนี้ จัดสรรเป็นรูปแบบของสหกรณ์ มีเงื่อนไข ต้องไม่นำไปจำหน่าย จ่ายโอนให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาด และจุดนี้มีแผนจะพัฒนาเป็นเมืองที่มีการส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบด้านเศรษฐกิจยั่งยืน ตามแนวทางศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้สืบสานรักษาต่อยอด ในวันนี้
จากนั้นร้อยเอกธรรมนัสและศาสตราจารย์นฤมล ได้เยี่ยมชมกิจกรรมกระทรวงแรงงานเคลื่อนที่เพื่อประชาชน การจัดแสดงภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดกระบี่ 5 หน่วยงาน ซึ่งได้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ภารกิจของกระทรวงแรงงานที่เกี่ยวข้องกับแรงงานภาคการเกษตร ณ ตำบลเขาพนม
ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงแรงงาน เน้นการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน และการสร้างภาคีเครือข่ายกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลแรงงานให้มีงานทำ ซึ่งต้องปูพื้นฐานและส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถด้านทักษะฝีมือ เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบการจ้างงานหรือประกออบอาชีพอิสระได้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานดำเนินการภายใต้แนวคิด “สร้าง ยก ให้ รวมไทยสร้างชาติ” คือ สร้างแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ ยกระดับฝีมือให้ได้มาตรฐาน และมีทักษะที่หลากหลาย รวมถึงสามารถประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และให้โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้มากขึ้น การลงพื้นที่ จ. กระบี่ในวันนี้ เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคจากแรงงานภาคการเกษตรในเขตจังหวัดกระบี่ รวมถึงความต้องการให้กระทรวงแรงงานให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ภายใต้ภารกิจของกระทรวง เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างแท้จริง ช่วยให้แรงงานมีงานทำ มีรายได้ ดูแลตนเองและครอบครัวต่อไป
สำหรับกิจกรรมกระทรวงแรงงานเคลื่อนที่เพื่อประชาชน ประกอบด้วย โครงการแรงงานสัญจรพบประชาชนพื้นที่จังหวัดกระบี่ การประชาสัมพันธ์การป้องกันยาเสพติด การป้องกันโควิด-19 โดยสำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่ การรับสมัครงาน ให้คำปรึกษาการประกอบอาชีพ การรับงานไปทำที่บ้าน เอกสารเผยแพร่การรับสมัครงาน โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดกระบี่ รับสมัครฝึกอบรม สาธิตการฝึกอาชีพการทำผ้ามัดย้อม และการตัดผมชาย โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกระบี่ การให้คำปรึกษาแนะนำ การรับคำร้องทุกข์ร้องเรียน เกี่ยวกับสภาพการจ้างแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ และให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกระบี่ และการให้ความรู้ในเรื่องสิทธิประโยชน์กับผู้ประกันตน การรณรงค์ส่งเสริมการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และรับสมัครผู้ประกันตน มาตรา 40 โดยสำนักงานประกันสังคมจังหวัดกระบี่
“แรงงานที่ต้องการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมถึงพัฒนาทักษะอื่น ๆ สามารถติดต่อสมัครฝึกอบรมได้ที่หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 ปัจจุบันมีการปรับหลักสูตรให้ทันต่อเทคโนโลยี และรองรับวิถีชีวิตใหม่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้นำไปต่อยอดในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ต่อไป” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย