เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 เมย. พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นและตามด้วยเสียงปืนจำนวนหลายนัด เหตุเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง ม.4 ต.นาเกตุ หลังได้รับแจ้ง จึงรีบรายงานให้ พล.ต.พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ทราบพร้อมนำกำลังร่วมไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดเส้นทางดังกล่าวชั่วคราว ตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าริมถนนถูกลอบวางระเบิดบริเวณโค่นเสาทำให้เสาไฟฟ้าล้มพาดถนน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 40 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอร์นเทา ทะเบียน กจ 943 ปัตตานี สภาพไถลเข้าไปในชนเข้ากับสวนยางพาราได้รับความเสียหาย และยังพบร่องรอยรูกระสุนปืนบริเวณประตูและกระจกด้านคนขับจนพรุนนับได้กว่า 30 รู จากการตรวจสอบภายในรถบนเบาะคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตภาพถูกยิงพรุนทั้งตัว ทราบชื่อ นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี มีตำแหน่งเป็นโต๊ะบิหลั่น ประจำมัสยิดคลองช้าง(ผู้อาสานประจำมัสยิด) อยู่บ้านเลขที่ 46/2 บ.ควนลาแม ม.3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนบนถนนกว่า 30 ปลอก และปลอกกระสุนลูกซอง 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายเดินทางมาตามลำพังคนเดียว โดยขับรถมาจากมัสยิดเพื่อเดินทางหาพี่สาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งใกล้กับบ้านของพี่สาว ปรกฏว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัมที่ฝังไว้ใต้โค่นเสาไฟฟ้าจนเกิดระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าโค้นลงมา ผู้ตายไม่ทันหลบจึงได้พุ่งชนก่อนรถจะเสียหลักไถลตกลงข้างทางชนต้นยางพาราคนร้ายอีกชุดที่ดักอยู่ในป่าและมืด เข้ามายิงถล่มซ้ำใส่รถจนเสียงปืนดังสนั่นจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีเข้าไปในป่า ซึ่งรถมีสภาพไฟเบอร์หน้ารถหลุด ซากเล็กๆของรถกระจายเต็มท้องถนน และในป่า
ชาวบ้านเล่าว่า ตกใจมาก เพราะเสียงระเบิด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับเสียงปืนดังติดต่อกัน คนที่อาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต่างก็พากันมอบอยู่ไหนบ้าน หลังสงบก็ไม่กล้าออกมาดู
ด้าน พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนใจต่อพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่และเป็นที่รู้จักนับถือของชาวบ้าน เหตุครั้งนี้ จากที่ได้รับรายงานทราบว่า ผู้ตายไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มคนร้าย แต่เนื่องจากผู้ตายใช้รถเก๋งซึ่งเหมือนกับรถของเจ้าหน้าที่รัฐนายหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของคนร้ายที่หมายจะสังหาร อย่างไรก็ตามการลอบทำร้ายผู้นำศาสนาถึงแก่ชีวิตจะเป็นด้วยเหตุใดก็ตามหรือจะเป้นกรณียิงผิดตัวก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายความมั่นคงไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลแน่นอน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนได้สั่งการให้หน่วยกำลังสนธิกำลังร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด และเชื่อว่าน่ารู้ผล 2-3 วัน เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่