ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT เดินหน้าสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย หรืองานคราฟต์ให้ร่วมสมัย โดนใจผู้ใช้
นายพรพล เอกอรรถพร ผอ.ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT กล่าวว่า ศูนย์ฯ เป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญาและองค์ความรู้งานด้านศิลปหัตถกรรมไทย โดยการดำเนินงานปี 2564 มุ่งยกระดับศักยภาพผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรม หรืองานคราฟต์ (Craft) และผู้ประกอบการแขนงนี้ ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนด้านการตลาดผ่านช่องทางการขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกทั้งลงพื้นที่ 4 ภูมิภาค เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการสร้างกลุ่มสตาร์ทอัพงานหัตถกรรมไทย ค้นหาช้างเผือกหัตถศิลป์ไทยมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมและการออกแบบร่วมสมัย เพื่อรองรับการจัดงานมหกรรมศิลปหัตถกรรมไทย โดยตั้งเป้าหมายกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศช่วงกลางปีนี้ จากนั้นจะเร่งสร้างมาตรฐานงานศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อเตรียมผลักดันส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศภายในปีนี้ จะเป็นการฟื้นเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบยาวนานมาปีกว่าแล้ว
ทั้งมองการทำงานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกวันนี้ว่า ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากโลกเปลี่ยนเร็วมากด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร และการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำรงชีวิต ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่สนใจงานหัตถกรรม ทำให้ตลาดงานศิลปหัตถกรรมเล็กลง ดังนั้น คนทำงานด้านนี้จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงานของศูนย์ฯ ส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีและพัฒนาวัสดุในการผลิตศิลปหัตถกรรมไทยและงานศิลปาชีพ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร สนับสนุนข้อมูลทั้งภูมิปัญญา องค์ความรู้ ที่จำเป็นในงานหัตถกรรมสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการตลาดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ถือเป็นครั้งแรก จากการจัดกิจกรรมในภาคใต้ จ.สงขลาที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ที่ผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมไทยในภาคใต้จะมารวมตัวกันมากที่สุด เพื่อจับมือพัฒนาและขับเคลื่อนหัตถกรรมท้องถิ่นให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ร่วมสมัย เสริมศักยภาพและพัฒนาทั้งตัวสินค้า วิธีคิดให้ทันกับโลกยุคใหม่ เพื่อให้สามารถสร้างยอดขายด้วยการตลาดเชิงรุกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าการตลาดใหม่ๆ เพื่อให้กลายเป็นสมาร์ทคราฟต์สตาร์ทอัพ” นายพรพล ผอ.ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าว