นายอำเภอเมือง พร้อมด้วย เหล่ากาชาด พมจ.ราชบุรี ส.ส.ราชบุรี เทศบาลเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านถูกเพลิงเผาวอดเมื่อกลางดึกบริเวณเขตพื้นที่ดินวัดเทพอาวาส เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยา
วันที่ 5 เม.ย. 64 นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางสมพิศ หลวงแจ่ม หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส. เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายดุสิต จิรภัทรากร เลขานุการนายก อบจ.ราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล ว่าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและเยี่ยมบ้านของนางญาณโชติ พงษ์สะหา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/11 ซอย 16 ชุมชนวัดเทพอาวาส เขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังเหตุเกิดเพลิงไหม้เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยเพลิงได้เผาวอดบ้านไม้ทั้งหลัง รวมทั้งทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องซักผ้าถูกเพลิงเผาเหลือแต่ซาก และเครื่องใช้ในภายในบ้านเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงซากและเศษสังกะสี เศษวัสดุต่างๆ เกลื่อนกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียด คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เปิดเผยว่า วันนี้มีหลายหน่วยงานได้ร่วมกันมาดูพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ประสาน หัวหน้า พมจ.ราชบุรี มาสำรวจรวมถึงตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัด เลขานายก อบจ. และว่าที่นายกเทศบาลเมืองราชบุรี จะนำรายละเอียดที่ได้ไปหารือกับคณะกรรมการเทศบาลเมืองอีกครั้งเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นที่ดินของวัด แต่ชาวบ้านได้มาเช่าที่ดินอยู่อาศัย จากการสอบถามรายละเอียดคาดว่า จะสามารถดูความช่วยเหลือจากหลายช่องทางมาช่วยกันเยียวยาชาวบ้านได้ เพื่อเร่งช่วยเหลือสร้างที่อยู่อาศัยได้โดยเร็ว
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) ทราบว่า ทางเทศบาลเมืองราชบุรีจะมีงบประมาณเป็นงบฉุกเฉิน เช่น เหตุเพลิงไหม้ จำนวน 49,000 บาท ส่วนกรณีอยู่ในที่ดินของวัดนั้นต้องไปสืบกับผู้เกี่ยวข้องว่าได้ปลูกอาศัยมานานมากน้อยแค่ไหน ส่วนของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะได้รับงบบางส่วนช่วยซ่อมแซมกรณีเป็นบ้านผู้สูงอายุประมาณ 40,000 บาท ส่วนของกาชาดจำนวน 10,000 บาท และยังมีเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือจาก พมจ.อีกส่วน ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเป็นจำนวนเงินประมาณ 2,000 - 5,000 บาท พร้อมมอบของอุปโภคบริโภคให้ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ พมจ.จะประสานเครือข่ายจาก CSR เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย