รมว.แรงงานเผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 3/2564 มีมติเห็นชอบขยายเวลาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และจัดเก็บอัตลักษณ์ข้อมูลบุคคล (Biometrics) ของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) จากเส้นตายเดิมวันที่ 16 เม.ย.เป็น 16 มิ.ย.64 ชง ครม. 7 เม.ย.นี้เห็นชอบ
น
ายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ คณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ได้รับทราบข้อห่วงกังวลของนายจ้าง ผู้ประกอบการว่าแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 บางส่วนอาจไม่สามารถดำเนินการตรวจหาโรคโควิด-19 และจัดเก็บอัตลักษณ์ข้อมูลบุคคล (Biometrics) ได้ทันกำหนดภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 แม้ว่าสถานพยาบาลของรัฐและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีความพร้อมในการให้บริการได้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งจะส่งผลให้แรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
“กระทรวงแรงงาน ได้กำหนดจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 3/2564 เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขข้อขัดข้องการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการจัดเก็บอัตลักษณ์ข้อมูลบุคคล (Biometrics) ของแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์แรงงานต่างด้าว และมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการจัดเก็บอัตลักษณ์ข้อมูลบุคคล (Biometrics) ของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ให้ออกไปจนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2564
ทั้งนี้กระทรวงแรงงานจะนำเสนอแนวทางการแก้ไขข้อขัดข้องต่อคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ 7 เมษายนนี้ เพื่อหน่วยงานต่างๆจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเบื้องต้นจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบในพื้นที่ มีจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานโรงพยาบาลเอกชนในการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ณ สถานที่ทำงานของคนต่างด้าว และสาธารณสุขจังหวัดรับรองผลการตรวจโควิด 19 และทำประกันสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มนำร่องวิธีดังกล่าวในจังหวัดชลบุรีที่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากที่กรมการจัดหางาน เปิดให้นายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าวแจ้งบัญชีรายชื่อ หรือข้อมูลบุคคลผ่านระบบออนไลน์ สำหรับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ตามมติข้างต้น ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.64 ถึง 13 ก.พ.64 ผลการดำเนินการล่าสุด มีการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) แล้ว 422,305 คน ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว 68,575 คน ได้รับอนุญาตทำงาน (อนุมัติ บต.48) แล้ว 68,548 คน และทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู/ใบอนุญาตทำงาน) 24,610 คน จากการแจ้งข้อมูลบุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคนต่างด้าว ทั้งที่มีนายจ้าง และไม่มีนายจ้าง 654,864 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 เม.ย. 64) ซึ่งหากครม.มีมติเห็นชอบ ให้ขยายเวลาออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 เม.ย.64 เป็นวันที่ 16 มิ.ย.64 ตามที่ที่ประชุม คบต.ได้เสนอไป คาดว่านายจ้าง/สถานประกอบการจะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ทัน โดยไม่ติดปัญหา
อย่างไรก็ดีขอย้ำให้คนต่างด้าวทั้งที่มีนายจ้าง และยังไม่มีนายจ้าง เร่งนัดหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 และซื้อประกันสุขภาพกับสถานพยาบาลของรัฐ พร้อมทั้งดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้เสร็จสิ้นตามกำหนด อย่ารอดำเนินการช่วงใกล้สิ้นสุดระยะเวลา โดยสามารถสอบถามขั้นตอนขอรับใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่ไลน์ @Service_Workpermit หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 ซึ่งมีการจัดล่ามในภาษากัมพูชา เมียนมา และอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และแนะนำวิธีการดำเนินการ