หลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครไม่รู้จักเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังหลายเรื่อง แบบหลายคนต้องเบือนหน้าหนี สารพัดเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อ เช่นปัญหาระบบประปาที่แทบเรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวของการบริหารจัดการ วันดีคืนนี้น้ำมันดีเซลปนเปื้อนมากับน้ำครึ่งค่อนเมือง และความมั่นคงของระบบที่หาแทบไม่ได้น้ำหลาก น้ำแล้งเหมือนกันคือ “น้ำไม่ไหล” แต่ทั้งเมืองขยันที่จะขุดถนนวางท่อสวนทางกับคุณภาพการจัดการ แต่ปัญหาทุกปัญหาในเมืองนี้กับบางคนแล้วดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องหอมหวานในการกอบโกย วันดีคืนดีจระเข้หลุดจากสวนสัตว์ไปเยือนบ้านเรือนชาวบ้าน ขยะล้นเมืองน้ำเน่าจากภูเขาขยะมากเกินไประบายลงคลองสาธารณะ สารพัดปัญหาที่ไม่ถูก “จัดการ” แต่คำตอบที่สุดแสนจะคลาสสิคได้ยินอยู่เสมอคือ “เป็นเรื่องการเมืองฝ่ายตรงข้าม” ไม่ต้องบอกคำพูดนี้เป็นของใคร ชาวนครศรีธรรมราชต่างรู้จักดีและดูเหมือนว่า กำลังจะ “สูญพันธ์”ทางการเมือง แต่ก่อนที่จะสูญพันธ์คงต้องเผชิญวิบากกรรม กับ ปปช.และ ศาลทุจริตประพฤติมิชอบอีกหลายวาระ กับเรื่องราวที่กำลังทยอยผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ท่ามกลางความหวังของชาวบ้านชาวเมืองที่จมปลักอยู่กับปัญหา 28 มีนาคม ที่ผ่านมาชาวเมืองนครศรีธรรมราช จำนวนไม่น้อยที่รู้สึกถูกปลดปล่อย และรู้สึกมีความหวังครั้งใหม่กับการบริหารจัดการเมือง หลังจากที่ นายกณพ เกตุชาติ ลูกชายของสมนึก เกตุชาติ อดีตตำนานการเมืองท้องถิ่น สามารถเอาชนะใจผู้คนชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงขาดลอยคู่แข่งนับหมื่นคะแนน เมื่อสำรวจดีกรีของความรู้ว่าที่ผู้บริหารเมืองนครศรีธรรมราชคนนี้ พบว่าเป็นวิศวกร ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิศวกรโยธา จากประเทศสหรัฐอเมริกา นับว่ามีความเหมาะสมกับการบริหารจัดการเมืองที่ต้องเร่งกอบกู้ ฟื้นฟูจากสภาวะล้มเหลวทางการบริหารจัดการ ทั้งถนนหนทาง ระบบจำหน่ายประปา ภูมิทัศน์เมือง สิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะ การจัดการขยะมูลฝอย ที่สำคัญวัฒนธรรมองค์กรที่กำลังผุกร่อน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา อันนี้ “คนใน” ต่างรู้ดีและนี่คือโจทย์ปัญหาใหญ่กำลังท้าทายวิศวกรหนุ่มที่กำลังเข้าสู่เก้าอี้บริหารสูงสุดของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ประกายความหวังประการหนึ่ง ที่บังเอิญพบเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย มีกลุ่มภาพไม่กี่ภาพ พร้อมคำบรรยายสั้นๆจากเจ้าของ FB.ที่ใช้ชื่อว่า วงศ์วชิร โอวรารินท์ ในภาพพอที่จะสรุปได้ว่า กณพ เกตุชาติ พร้อมด้วยเจ้าของ FB นี้ได้ใช้เวลากลางคืนนั่งไปบนรถเก็บขยะ ตระเวนไปยังบริเวณชุมชนหลายแห่งก่อนที่จะนำขยะที่ได้ไปทิ้งยังจุดทิ้งขยะ สำหรับสถานะในตำแหน่งผู้บริหารระดับเทสบาลนคร ในรอบ 10 ปีมานี้ แม้แต่เข้าใกล้รถขยะกลิ่นสุดแสนจะเร้าใจในบ้านเมืองนี้ไม่มีใครเคยทำให้เห็นมาก่อน จึงกลายเป็นภาพแปลกตาสำหรับใครหลายๆคน หากถอดความจากภาพ แนวคิดของคนในภาพที่กำลังเปลี่ยนสถานะเป็นผู้บริหารเมืองกำลังคิดอะไรไม่มีใครล่วงรู้ได้ แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาได้อย่างน้อยมันคือ “ความใส่ใจ” “ความใส่ใจ” จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาที่ถูกหมักหมม สะสมมาอย่างยาวนานของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อีกทั้งนโยบายที่ถูกนำเสนอเป็นพันธะสัญญา เป็นวาระที่ต้องพัฒนาทั้งนโยบายด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม เหล่านี้เป็นภาระที่ต้องตระหนัก “ความใส่ใจ” จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงาม หลังจาก “ความใส่ใจ” กณพ เกตุชาติ จะสร้าง วิสัยทัศน์ และพันธกิจ นำพาเมืองนี้ไปในทิศทางใด เกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมามีบทเรียนความล้มเหลวครั้งใหญ่ให้ศึกษาอยู่แล้ว ที่เหลือประชาชนจะเป็นผู้รับผลและตรวจสอบ +++++++++++++++