ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (ชุดเหยี่ยวดง) เดินทางไปพบ นายมานพ เอ็มสรรค์ เจ้าของลิงอ้วน ก๊อดซิลลา อายุ 3 ปี 8 เดือน เพื่อขอรับลิงกลับไปอยู่ในความดูแลของกรม โดยจะนำไปตรวจสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พร้อมพิจารณานำกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไปนั้น
มีความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่4 เมษายน64 กรมอุทยานแห่งชาติฯ อัพเดตชีวิตลิงแสม โดยน.ส.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 ระบุว่าอาการทั่วไปของลิงแสม “ก๊อดซิลลา” สดชื่น แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของลิง กินน้ำ และอาหาร คือ กล้วย ผักกาดขาว แตงกวา แครอต เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงต้ม เม็ดฝักบัว ผักชีลาว และเสริมโปรตีนจากแมลง โดยลิงยังอยู่ในช่วงของการกักโรค ปรับโภชนาการและปรับพฤติกรรม
ซึ่งลิงพักอยู่ภายในกรงพักสัตว์ป่าชั่วคราวภายในคลินิกสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) เป็นห้องขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 2.2 เมตร สูง 2.4 เมตร
เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับลิงย้ายห้อง เพื่อทำความสะอาดห้องเดิม และนำตุ๊กตา ผ้าห่มที่อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ออกไปทำความสะอาด เหลือไว้เพียงอย่างละ 1 ชิ้น เพื่อให้การดูแลจัดการทำความสะอาดเป็นไปได้ง่าย และไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ขณะย้ายห้อง ลิงค่อนข้างผ่อนคลาย และไว้ใจทีมดูแล (โดยเฉพาะสัตวบาลสาวสวยที่ให้อาหารและเข้าใจเรื่องจิตวิทยาสัตว์) ลิงจึงยอมให้จับมือ สามารถทำการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไปและตรวจโรคที่สำคัญในลิง โดยส่งไปตรวจยังสถาบัน หน่วยงานที่่มีมาตรฐาน เนื่องจาก อาการของนักข่าวที่โดนลิงกัดนั้น อาการยังไม่ดีขึ้น และผลตรวจเลือดผู้ที่ถูกกัดในห้องปฏิบัติการจากจุฬาฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นไวรัสชนิดใด แต่ที่ทราบแน่ชัดมีเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด และอยู่ในระหว่างรอผลการตรวจน้ำลายและอุจาระจากลิง ลิงจึงต้องอยู่ในระยะกักโรค งดเข้าเยี่ยมชั่วคราว จนกว่าผลการตรวจร่างกาบจะออกมา
โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน กระบวนการทางการแพทย์ ที่ต้องถือปฏิบัติ และเป็นขั้นตอนตามนโยบายของกรม ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใกล้ชิดทุกคนและเพื่อลิงด้วย