ยิงสนั่น 2 ชายหญิงซิ่งเก๋งแจ๊ส แหกด่าน ตำรวจเมืองอุดรธานี ไล่มาจนมุมทางพาดรถไฟ สาดกระสุนใส่รถตำรวจก่อนไปชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้านขี่หลบหนี
วันที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 22.30 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุว่า ได้มีรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กษ 7931 กรุงเทพมหานคร แหกชนด่านจุดตรวจ มาจากถนนมิตรภาพอุดรธานี-หนองคาย ก่อนถึงทางลอดอุโมงค์ แล้วขับหนีเข้ามาในตัวเมืองอุดรธานี แล้วมาจนมุมจอดรถหยุดทางพาดรถไฟ ในซอยมิตรสว่าง 3 ชุมชนทุ่งสว่าง แล้วเปิดฉากยิงใส่รถตราโล่ของตำรวจจราจร ที่ขับไล่ตามมาจำนวนหลายนัด ทำให้ชาวบ้านในชุมชนพากันแตกตื่นหวาดกลัว โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากนั้น พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจ สายตรวจ 191 ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจจราจร กว่า 30 นาย เข้าปิดล้อม ภายในชุมชน ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแจ๊สสีขาวของคนร้ายจอดอยู่ทางพาดรถไฟไม่สามารถขับต่อไปได้ เนื่องจากมีเสากั้นเอาไว้ ตรวจสอบภายในรถ พบอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนในรังเพลิง อยู่ในกระเป๋าสีดำ และพบยาบ้าจำนวน 1 ถุง อุปกรณ์การเสพยา ที่ด้านหลังรถยังพบชุดแต่งต่อปืนสั้นขนาด 9 มม.,กล้องติดปืนยาว ,ปืนสั้นบีบีกันจำนวน 1 กระบอก ,อาวุธมีด 1 เล่ม และ อุปกรณ์เครื่องใช้ในการตกปลา ส่วนรถตราโล่ของตำรวจจราจร ที่จอดอยู่ด้านท้ายรถเก๋งแจ๊สสีขาว ของคนร้าย มีรอยรูกระสุนปืนยิงเข้าที่ฝากระโปงรถ และกระจกหน้ารถ ประมาณ 9 นัด ซึ่งมีปลอกกระสุนปืนตกอยู่ที่พื้นจำนวน 12 ปลอก โดยมีดาบตำรวจรุ่งเพชร สุดสนธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับลูกน้อง ขับรถยนต์กระบะตราโล่ ไล่ตามรถของคนร้ายมา รอดตายอย่างหวิดหวุด โดยได้ปรับเบาะนั่งรถยนต์ลง ตอนที่คนร้ายเปิดประตูรถลงมา แล้วใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่รถจำนวนหลายนัด ก่อนที่คนร้ายทั้งชายและหญิง จะวิ่งข้ามทางพาดรถไฟไปยังอีกฝั่ง เข้าไปในซอยหนองเหล็กซอย 4 ได้ทำการชิงรถ จยย. ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของชาวบ้าน ขับหลบหนีไปหน้าปากซอย ส่วนผู้หญิงที่มาด้วยกับคนร้าย ก็ได้วิ่งหลบหนีไปเข้าไปในซอยย่อย ที่จะทะลุไปยังซอย 3
ต่อมาพล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ
ดาบตำรวจรุ่งเพชร สุดสนธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้ทำการตั้งด่านจุดตรวจ บริเวณก่อนถึงทางลอดอุโมงค์ ถนนอุดรธานี- หนองคาย ขาเข้า ได้มีรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีขาวขับชนกรวยที่ตั้งอยู่ แล้วขับแหกด่านหนีมา จึงได้ขับรถตราโล่ไล่ติดตามรถคนร้ายเข้ามาในตัวเมืองอุดรฯ วนอยู่ 2-3 รอบ โดยผู้ชายเป็นคนขับ และมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างคนขับ จึงได้ใช้ความระมัดระวัง ในการขับไล่ตาม เพราะคิดว่าต้องมีสิ่งผิดกฎหมายหรือมีอาวุธปืนด้วย คาดว่าคนร้ายจะไม่คุ้นเคยเส้นทาง แล้วขับเข้ามาในซอยแห่งนี้ ทำให้จนมุม เพราะเป็นทางพาดรถไฟ ซึ่งเป็นทาง รถ จยย.ผ่านได้เท่านั้น ทำให้ไปต่อไม่ได้ จากนั้นคนร้ายที่เป็นชายลงรถมา แล้วใช้อาวุธปืนเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่จำนวนหลายนัด หวังผลจะฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงได้บอกลูกน้องที่มาด้วยปรับเบาะรถให้แอนลง แล้วให้มอบลง ทำให้ไม่สามารถจะยิงโต้ตอบคนร้ายได้เลย ในตอนนั้นคิดว่าตนเองอาจจะถูกกระสุนของคนร้าย เพราะคนร้ายยิงเข้ามาใส่รถ จำนวน12 นัด ตนนึกถึงหลวงตามหาบัว หรือ พระธรรมวิสุทธิมงคล ญาณสมฺปนฺโน อดีต เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่ตนเองพกตัวอยู่ตลอดเวลาทุกครั้ง ที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ทำงาน จึงพูดขึ้นว่าขอบารมีของหลวงตา ช่วยลูกด้วย จึงรอดพ้นจากคมกระสุนทั้ง 2 คน
น.ส.ศุภานัน ไชยวงษ์ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน อยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ได้บอกว่า ในขณะที่ตนอาบน้ำเสร็จ ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาในซอย ขึ้นไปถึงทางพาดรถไฟ แล้วก็ได้ยินเสียงกระสุนดังขึ้นหลายนัด ก่อนที่ตำรวจจะวิ่งเข้าในบ้านของตน สั่งทุกคนในบ้านให้มอบลงที่พื้น ในตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก พอเสียงกระสุนหยุดลง ตำรวจก็ออกไปเคลียร์พื้นที่ แล้วชาวบ้านที่เป็นชาย เดินมาบอกตำรวจ คนร้ายที่ยิงปืนใส่รถตำรวจ มาชิงเอา รถ จยย. ไป
ส่วนนายพีรพันธ์ จันทวงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 306 หมู่ 9 ซอยหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้บอกว่า ในขณะที่ตนขี่ รถจยย.ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน กลับมาถึงหน้าบ้าน โดยได้จอด รถ จยย. ไว้หน้ารั้วบ้าน ซึ่งได้ติดเครื่องยนต์เอาไว้ แล้วตนเดินลงไปเปิดรั้วบ้าน จากนั้นมีคนร้าย เป็นชายวิ่งมา ในถือมีอาวุธปืน มาบอกขอยืม รถ จยย. ตนเห็นเขาถือปืนจึงไม่กล้าทำอะไร คนร้ายก็ได้ขี่ รถ จยย. หลบหนีไปหน้าปากซอย ส่วนผู้หญิงที่วิ่งตามคนร้ายมา ก็ได้วิ่งเข้าไปในซอยย่อย ทะลุไปยังซอย 3
พล.ต.ต. พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน มีเหตุยิงกันในลักษณะที่คนร้ายแหกด่าน ซึ่งด่านที่ตั้ง ตั้งตามนโยบายของ ผบ.ตร. ที่ได้ตั้งขึ้นบริเวณถนนมิตรภาพขาเข้า ไม่นานมีคนร้ายเป็นหญิงและชาย ขับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สสีขาว มุ่งเข้าสู่ตัวเมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ได้ติดตาม มาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นคนร้ายได้มีการใช้อาวุธปืนยิงเปิดทาง จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน 9 นัด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ามีทั้งหมด 12 นัด ซึ่งจะต้องตรวจค้นต่อไป
เมื่อมีการตรวจภายในรถพบยาบ้า 1 ถุง 200 เม็ด อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก มีกระสุน 5 นัด และมีปืน บีบีกันลักษณะเป็นปืน สั้น และปืนยาว ในรายละเอียดเชื่อว่าต้องมีมากกว่านี้ ซึ่งจะต้องนำรถไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ในการตรวจสอบสืบสวนหาตัวคนร้าย มั่นใจว่าเราพิสูจน์ทำให้ทราบตัวบุคคลได้ เพราะเนื่องจากรถเป็นรถใช้งาน เป็นรถที่ผู้เป็นเจ้าของใช้ประจำและมีข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก พยานหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุที่จะพิสูจน์ตัวบุคลก็มีชัดเจนหลายประเด็น ซึ่งคาดว่าจะสามารถสืบทราบตัวบุคลได้ต่อไป
ในส่วนคนร้ายจะเป็นเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่ นั้นเพราะขณะนี้พบอุปกรณ์การเสพ อยู่ในรถ ก็เชื่อว่าผู้ก่อเหตุต้องมีการเสพยาเสพติดอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นเครือข่ายหรือแก๊งนั้นต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนอาวุธปืน ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบบริเวณที่ตีทะเบียนก่อนว่าเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่
เบื้องต้นมีการสั่งการทางวิทยุในการแจ้งเหตุในข่ายของ จ.อุดรธานี แล้ว และคงจะใช้แนวทางการสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลออกหมายจับเพื่อติดตามตัวคนร้าย โดยจะมีการออกหมายจับคนร้ายต่อไป ในส่วนการตั้งข้อหา ผู้ต้องหาได้ยิงหรือกระทำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในระยะกระชั้นชิด ระยะ 4 เมตร ไม่เกิน 5 เมตร แล้วลักษณะการยิงเป็นการยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ถึง 12 นัด ยิงใส่กระจกหน้าด้านคนขับ ยิงใส่กระจกด้านคู่บัดดี้ข้างคนขับ และยิงใส่ไฟหน้าให้ดับ ลักษณะเหล่านี้ชัดเจนสามารถตั้งขอหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานได้แล้ว.